เนื่องจากการทำธุรกรรมออนไลน์ยังคงเป็นที่นิยมและครอบคลุมไปทั่วโลกสำหรับยุคปัจจุบัน...

PSTNET ผู้ให้บริการบัตรเครดิตเสมือนดีที่สุดในปี 2023
เนื่องจากการทำธุรกรรมออนไลน์ยังคงเป็นที่นิยมและครอบคลุมไปทั่วโลกสำหรับยุคปัจจุบัน การใช้บัตรเสมือนหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “Virtual Card” ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ บัตรเสมือนตัวนี้จะให้คุณสมบัติและความสะดวกสบายเหมือนกับ “บัตรเครดิต” ที่ใช้ในปัจจุบัน
แต่จะมีการเพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ปกป้องผู้ถือบัตรจากการฉ้อโกงและการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ตัวบัตรเสมือนยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่เหมือนกับบัตรเครดิตและใช้งานแทนบัตรเครดิตได้สมบูรณ์ 100%
ไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณาดิจิทัล การซื้อสื่อออนไลน์ต่างๆ การทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing ก็ทำได้เช่นกัน ในด้านการจัดการบัตรเราก็ทำผ่านออนไลน์ได้ทั้งหมด
PSTNET ผู้ให้บริการบัตรเครดิตเสมือนดีที่สุดในปี 2023 (กดเลือกอ่านได้)
PSTNET คืออะไร ?
เรามาทำความรู้จักกับ “PSTNET” ที่เป็นผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตเสมือน ติดหนึ่งในผู้ให้บริการที่ดีที่สุดประจำปี 2566 ในด้านของ PSTNET มีบริการบัตรเครดิตชำระเงินแบบ “พรีเมียม” และมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยแบบ 3D Secure ที่เป็นมาตรฐานหลักของอุตสาหกรรมบัตรเครดิต เพียงแค่คุณเติมเงินเข้าไปแค่ 1 ดอลล่าร์ก็สามารถเริ่มต้นใช้งานบัตร PSTNET ได้ทันที นอกจากนี้ยังเติมเงินด้วยสกุลเงิน Cryptocurrency หรือจะโอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัตรเพื่อชำระค่าโฆษณาต่างๆ การซื้อสินค้าหรือบริการจากทั่วโลกในสกุลเงินดอลล่าร์หรือยูโรก็ได้

บริการจาก PSTNET
นอกจากนี้ตัว VCC (บัตรเครดิตเสมือน) ของ PSTNET ก็ไม่จำกัดจำนวนบัตรที่ถือ รวมถึงการใช้จ่ายและเงินที่คงเหลืออยู่ในบัตร และไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ แอบแฝงกับการบริการดังกล่าว ทำให้บัตร PSTNET เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของผู้ให้บริการที่โดดเด่นอย่างมากหากในภาคธุรกิจหรือแม้กระทั่งระดับบุคคลต้องการบัตรไว้ใช้งานสำหรับการซื้อโฆษณาแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิเช่น Facebook, Instagram, TikTok, Google Ads, Twitter หรือแม้กระทั่งแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Canva, Amazon, Ebay, Digital Ocean หรือผู้ให้บริการรายอื่นๆ ก็สามารถใช้บัตร PSTNET ในการชำระได้ทั้งหมดแม้สกุลเงินนั้นจะต้องการให้จ่ายเป็น Cryptocurrency ตัวบัตรเสมือน PSTNET ก็สามารถจ่ายให้ได้
นอกจากนี้บัตรเครดิตเสมือนของ PSTNET ก็ยังผูกเข้ากับ e – Wallet ของเจ้าต่างๆ ได้ด้วยเช่น Google Pay และ Apple Pay เพื่ออำนวยความสะดวกในการจ่ายเงินซื้อฟีเจอร์หรือแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ด้วย
การสมัครบัตร PSTNET
โดยทั่วไปแล้วการเปิดบัตรเครดิตเสมือนรวมถึงการเปิดบัตรเครดิตจริงๆ ก็มักจะมีความยากและใช้เวลาพอสมควร บางบัตรก็มีความซับซ้อนไม่น้อยจนสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งาน
แต่ถ้าคุณใช้งาน PSTNET จะหมดปัญหาดังกล่าวข้างต้นในทันที เพราะขั้นตอนการลงทะเบียนก็มีความสะดวกสบายง่ายดายเพียงไม่กี่คลิก เพียงคุณลงทะเบียนด้วยบัญชี Google Telegram หรือสร้างข้อมูลสำหรับการเข้าสู่ระบบและไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารใดๆ ทั้งสิ้น
แต่จะถูกจำกัดวงเงินไว้ในบัตรไม่เกิน 500 ดอลล่าร์เท่านั้น สำหรับคนที่ต้องการใช้งานมากกว่านี้ก็อาจจะต้องยืนยันตัวตนเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้มีความซับซ้อนไม่เกิน 2 – 3 ขั้นตอนในการดำเนินการเท่านั้น และไม่ใช้เวลานาน

สิทธิพิเศษเพิ่มเติมบัตร PSTNET
นอกจากนี้บัตร PSTNET ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับทีมหรือผู้ใช้งานที่มีการจ่ายเงินผ่านบัตรของ PSTNET ที่มีการใข้จ่ายต่อเดือนสูงกว่า 30,000 ดอลล่าร์ต่อเดือน คุณมีสิทธิที่จะได้สิทธิพิเศษทันที
เพียงแค่คุณแคปหน้าจอการใช้งานที่มากกว่า 30,000 ดอลล่าร์ต่อเดือน ก็รับไปเลยบัตรเครดิตเสมือนไว้สำหรับทดสอบจำนวน 100 ใบ แต่ละใบมีเงินให้ทดสอบฟรี 1 ดอลล่าร์ นอกจากนี้ยังยกเว้นค่าธรรมเนียมการเติมเงิน 2% อีกด้วย
สำหรับสิทธิพิเศษเหล่านี้จะเฉพาะผู้ที่ใช้โปรแกรม “PST Private” เท่านั้น และเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยม รวมถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากเปรียบเทียบกับกลุ่มบัตรเครดิตเสมือนในปี 2566 ด้วย
การเติมเงินให้กับบัตร PSTNET ก็มีความหลากหลาย สามารถเติมได้ด้วยสกุลเงิน USDT TRC-20 (Tether) และ Bitcoin แม้กระทั่งการโอนผ่านธนาคาร (SWIFT, SEPA) และบัตร VISA หรือ MasterCard ก็ได้เช่นกัน
และยังสามารถถอนเงินออกมาได้แต่ต้องมีเงินในบัตรเกิน 300 ดอลล่าร์ขึ้นไป จากเดิมที่ต้องมีถึง 500 ดอลล่าร์ แต่ก็ได้ลด Limit ในการถอนลงเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ด้วยบัตรเครดิตเสมือนจาก PSTNET ที่มีการเข้ารหัสและมีมาตรฐานความปลอดภัยเทียบเท่ากับบัตรเครดิตทั่วไปที่อออกแบบมาเฉพาะสำหรับการซื้อสื่อออนไลน์ต่างๆ
การทำการตลาดแบบ Affiliate และการทำธุรกรรมอื่นๆ ที่เชื่อถือได้ และสามารถเข้าถึงการจ่ายเงินจากบัญชีโฆษณาที่มีความเสี่ยงให้ซื้อโฆษณาได้โดยสะดวกมากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์เพิ่มเติมจาก PSTNET
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์หรือเครื่องมือพิเศษจากทาง PSTNET ที่เรียกว่า BIN Checker ที่จะช่วยตรวจสอบข้อมูลในบัตรและธนาคารต่างๆ ทั้งหมด และจะแสดงสถิติแบบ Real – Time ในการใช้งานอีกด้วย
รวมถึงมีการเก็บสถิติและแสดงผลเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์ของธุรกรรมที่ได้รับอนุมัติหรือถูกปฏิเสธ การใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบัตร และเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน
สำหรับในฝั่งของการใช้บัตรแบบองค์กรหรือแบบทีม ผู้ใช้บัตรดังกล่าวสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อปรับเปลี่ยนสถานะเป็นบัญชีหลักได้ โดยบัญชีหลักจะให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอีกมากมาย
รวมถึงฟีเจอร์ในการจัดการด้านการใช้บัตรเครดิตเสมือน PSTNET กับพนักงานภายในองค์กรได้เช่น การเชิญ การระงับ และระดับบทบาท การกำหนดวงเงินใช้จ่าย การโอนบัตรและเงินระหว่างบัญชีภายในทีมทันที การเข้าถึงระบบร้องขอเติมเงิน
นอกจากนี้บัญชีหลักยังสามารถเข้าถถึงประวัติการทำธุรกรรมของภายในทีมทั้งหมดแบบละเอียด รวมถึงการสร้างประวัติการใช้งานและการดาวน์โหลดรายงานในรูปแบบ CSV. ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าบัญชีหลักนั้นจะมีเครื่องมือฟีเจอร์เฉพาะที่เหมาะสมกับระดับธุรกิจที่สุด
ส่วนขยายผ่าน Google Chrome เพิ่มความสะดวก
PSTNET สามารถใช้ผ่านส่วนขยายของ Google Chrome ได้เช่นกัน โดยจะเรียกว่า “Cardholder” โดยผู้ใช้จะต้องรับรหัสยืนยันผ่าน 3DS ได้โดยตรงผ่านเบราว์เซอร์จึงจะสามารถใช้งานได้ โดยจะตรวจสอบยอดเงินปัจจุบันและรายละเอียดของบัตรชำระเงินเสมือนของคุณจาก PSTNET และใส่รายละเอียดบัตรในช่องรายละเอียดการชำระเงินได้ในคลิกเดียว
สรุป
บัตร PSTNET เป็นบัตรที่มีความสะดวกและสามารถเชื่อถือได้ ใช้งานง่าย เหมาะกับคนที่ต้องทำโฆษณาทางการตลาดหรือจำเป็นจะต้องมีการชำระด้วยเงินตราต่างประเทศหรือจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อดำเนินการต่างๆ
ด้วยเงื่อนไขและสิทธิพิเศษมากมายจาก PSTNET ก็ทำให้ถูกยอมรับในระดับสากล และยังมีประเภทบัตรให้เลือกมากมาย รวมถึงมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากลในด้านบัตรเครดิต มีระบบตรวจสอบคุณภาพอย่าง 3D Secure และระบบ BIN จาก PSTNET ที่ยกระดับการป้องกันข้อมูลให้มีความแน่นหนามากยิ่งขึ้น
และสามารถตรวจสอบทางการเงินบนแพลตฟอร์มโฆษณาต่างๆ ได้ทั้งหมด ด้วยฟีเจอร์และสิทธิพิเศษเหล่านี้ทำให้ PSTNET เป็นอีกหนึ่ง “บัตรเครดิตเสมือน PSTNET” เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่างๆ หรือใช้สำหรับการทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing ประจำปี 2566 ด้วย
1. กลยุทธ์การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing)
โซเชียลมีเดียมีคนไทยเกือบจะทั้งประเทศที่มีการใช้งานโลกออนไลน์อยู่ หรือคิดเป็นกว่า 80% ที่มีบัญชีโซเชียลมีเดียของแพลตฟอร์มต่างๆ โดยเพื่อนๆ สามารถนำช่องทางที่เหมาะสมมาปรับการใข้งานให้สอดคล้องกับธุรกิจของเราได้ เช่น การใช้ Facebook เป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับลูกค้า โดยคุณอาจจะต้องเน้นไปที่การทำวิดีโอแบบสั้นเป็นหลัก หรือไม่ก็โพสต์ที่เป็นแนว Storytelling เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น
อีกวิธีก็คือการแชร์คอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย เพราะปัจจุบันคอนเทนต์ในด้านการขายแทบจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปแล้ว คนที่เห็นส่วนใหญ่ก็มักจะเลื่อนหนีทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นการขายของ