ขายของออนไลน์อะไรดี 2023 แจกไอเดียสินค้าเด็ดๆ เยอะมาก

ขายของออนไลน์อะไรดี 2023 แจกไอเดียสินค้าเด็ดๆ เยอะมาก

แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

ขายของออนไลน์พูดไปแล้วใครๆ ก็หามาขายกันได้ทั้งนั้น แต่ติดอยู่ที่ว่าคิดไม่ออกว่าจะหาอะไรมาขายดี เพราะสินค้ามีเยอะแยะเต็มไปหมด เลือกกันไม่ถูก ในบทความนี้เราจะมาแจกหมวดสินค้าต่างๆ ให้เพื่อนๆ ได้เอาไปลองหาเป็นไอเดีย พร้อมมีเนื้อหาแชร์เทคนิคการหาสินค้ามาขายให้ด้วย

1. กลุ่มสินค้าพวกความงาม

ปัจจุบันสินค้ากลุ่มความงามก็ได้รับความนิยมอย่างมาก และภายในตลาดก็มีอัตราการเติบโตที่สูงอย่างมาก คาดว่าในปี 2023 และปีต่อๆ ไปมูลค่าของตลาดน่าจะเพิ่มมากขึ้นอีก โดยสินค้ากลุ่มนี้ก็จะเป็นพวกครีม ลิปสติก เครื่องสำอางชนิดต่างๆ ทั้งนี้เพื่อนๆ อาจจะต้องเช็คพวก อ.ย. ส่วนผสมต่างๆ ให้ถี่ถ้วน เพราะทุกวันนี้สินค้าพวกความงามในตลาดมักจะมีของไม่ผ่านคุณภาพเยอะมาก อาจจะต้องมีการกรองสินค้าให้ดีก่อนที่เราจะเอามาขาย

จุดเด่นของการขายสินค้าหมวดนี้เลยคือ กำไรเยอะมาก บางตัวดันได้ถึง 300% เลย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการขายที่ยากสุดๆ เพราะหลายแพลตฟอร์มไม่ค่อยยอมให้ขายเท่าไหร่ รวมถึงการใช้คำโฆษณาก็ค่อนข้างยากในแง่ของกฎหมายและในกฎของแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วย ใครที่ขายอยู่แล้วจะรู้ดีเลยอันนี้

ถ้าคุณสนใจจะขายสินค้าความงามบน Facebook แนะนำให้อ่านบทความเหล่านี้

2. ของเล่นเด็ก

ของเล่นเด็กเป็นสินค้าที่หาซื้อมาขายได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะสั่งออนไลน์แล้วมาขายต่อ หรือจะไปเดินในย่านสำเพ็งเพื่อซื้อมาขายต่อก็ยังได้ โดยกลุ่มสินค้านี้ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการค้นหาสูงตลอดทั้งปี แถมในกลุ่มลูกค้าที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ก็มักจะยอมจ่ายเพื่อคุณลูกด้วยเช่นกัน

สำหรับของเล่นที่จะยกตัวอย่างก็เช่น พวกเลโก้ ของเล่นจำลองสถานการณ์ โมเดลของเล่น รถบังคับ เป็นต้น

3. สินค้าเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน

เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่ากลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านก็มีมูลค่าสูงเช่นกันหากเทียบกับหมวดอื่นๆ โดยสำหรับคนขายของออนไลน์แนะนำว่าเป็นสินค้าชิ้นเล็กๆ จะดีกว่า เพราะถ้าลงทุนสินค้าชิ้นใหญ่อาจจะทำให้ต้นทุนของเราจมได้ จึงไม่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก แต่ถ้าเป็นพวกวอลเปเปอร์ติดผนัง ชั้นวางของขนาดเล็ก โต๊ะ เก้าอี้ หมอนรองนั่ง ต้นไม้ปลอม ก็น่าสนใจไม่น้อย

4. สินค้ากลุ่มเครื่องมือช่าง

สินค้าในกลุ่มนี้ส่วนมากฐานลูกค้ามักจะเป็นผู้ชายหรือคุณพ่อบ้านทั้งหลาย สินค้าในกลุ่มเครื่องมือช่างก็ถือว่าขายได้เรื่อยๆ ยอดขายไม่แย่ สำหรับไอเดียการขายคุณอาจจะลองหาพวกประแจ ไขควง ค้อน คีม ลวด เทปกาวสำหรับงานช่าง น็อต ตะปู มาวางขายก็ได้ เน้นหนักไปที่สินค้าในกลุ่มของคนที่ไม่ใช่ช่าง แต่สามารถใช้งานสำหรับซ่อมแซมหรือเป็นเครื่องมือที่ต้องมีติดบ้านก็ได้ หากเริ่มต้นขายของออนไลน์แรกๆ ทุนยังไม่เยอะ ก็มองเป็นของที่ใช้ทุนไม่เยอะไปก่อน แล้วในอนาคตค่อยขยายไปก็ได้

เพิ่มเติมเล็กน้อย

สินค้าพวกเครื่องมือช่างเอาไปยิงโฆษณาใน Facebook ก็ได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างดีพอสมควร เพื่อนๆ อาจจะลองหามาขายแล้วจัดโปรโมชั่นต่างๆ ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าดู

5. สินค้ากลุ่มแฟชั่น

สินค้ากลุ่มแฟชั่นเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคุณผู้หญิง แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคุณผู้หญิงอยู่แล้วที่มักจะซื้อเปลี่ยนอยู่บ่อยครั้ง และก็เป็นหมวดที่ได้รับความนิยมในการซื้อของออนไลน์เป็นอันดับต้นๆ ในประเทศไทยอีกด้วยกับทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งสินค้าพวกแฟชั่นต้องบอกเลยว่าหาซื้อมาขายได้ง่ายมากๆ เริ่มต้นด้วยเงิน 1 – 2,000 ก็เอามาขายได้แล้ว โดยแหล่งสินค้าแฟชั่นในด้านเสื้อผ้าใหญ่ที่สุดก็จะเป็นย่านประตูน้ำ

หรืออีกแหล่งหนึ่งก็จะเป็นการสั่งสินค้าจากจีนแล้วเอามาขายก็ได้ แต่ปัญหาของการสั่งเสื้อผ้าจากจีนคือไซส์อาจจะตัวเล็กไปหน่อย เพราะคนจีนหากเทียบกับคนไทยเค้าค่อนข้างตัวเล็ก เพื่อนๆ อาจจะต้องเอามาตรวัดของจีนมาแปลงเป็นมาตรวัดของไทยก่อนถึงจะได้ไซส์ที่เหมาะสม

แชร์ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ จากข้อมูลของลูกเพจที่ไม่ประสงค์ออกนาม แอดขอขอบคุณที่ช่วยแชร์ความรู้มาให้

ถ้าเป็นกลุ่มเสื้อผ้า อก 32 – 38 สำหรับคุณผู้หญิงจะขายดีมาก แล้วก็สำหรับเสื้อผ้าสาวอวบจะที่ขายดีขนาดจะอยู่ที่ 42 – 46 นิ้ว

อย่างไรก็ตามเพื่อนๆ ลองเอาไปพิจารณาดูอีกที เพราะแต่ละคนก็มีสินค้าและกลุ่มลูกค้าที่ไม่เหมือนกัน

รวมกลุ่มเป้าหมายของสินค้าทุกชนิดไว้ใน E-Book เล่มเดียว ยิงแอดได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น

6. สินค้ากลุ่มไอที Gadgets ชนิดต่างๆ

กลุ่มสินค้าจำพวก Gadgets นี้จะขายดีอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มลูกค้าคุณผู้ชาย ที่จะมีการซื้อสินค้าจำพวกเทคโนโลยีหรือ Gadgets อยู่เป็นประจำ คุณอาจจะหาพวกสายชาร์จ หูฟัง ที่วางโทรศัพท์ ที่ชาร์จแบตในรถ เคสโทรศัพท์ นาฬิกาดิจิตอล ฟิล์มโทรศัพท์ ลำโพงบลูทูธ มาลองวางขายดู แนะนำว่าให้หาสินค้าที่มีคุณภาพขึ้นมาหน่อยจะดีกว่า เพราะสินค้ากลุ่มนี้ลูกค้าจะค่อนข้างกังวลเรื่องคุณภาพ แต่ถ้าราคาแพงแล้วดีจริงๆ ลูกค้ากลุ่มนี้ก็ยอมจ่ายได้เหมือนกัน

7. สินค้าในกลุ่มยานยนต์

อันนี้ก็ขายดีแบบไม่น่าเชื่อเลยสำหรับสินค้าในกลุ่มยานยนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกสเปรย์ทำความสะอาดรถ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ อะไหล่รถยนต์ ไฟสำหรับรถยนต์ เซ็ตเครื่องมือสำหรับซ่อมรถยนต์แบบเบื้องต้น สินค้าพวกนี้ล้วนแล้วแต่ติดท็อปขายดีทั้งนั้น โดยเฉพาะในหมวดของพวกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรถยนต์นึ้คนซื้อบ่อยสุดๆ หากเพื่อนๆ กำลังมองหาสินค้าที่คนซื้อบ่อย ซื้อได้เรื่อยๆ ลองดูพวกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดก็ได้ เวิร์คอยู่เหมือนกันนะ

8. อาหารแห้ง อาหารต่างๆ

คนไทยเรื่องการกินนี้ก็ถือว่าไม่แพ้ใครเหมือนกัน โดยเฉพาะพวกของกินเล่น อาหารแห้งต่างๆ ล้วนแล้วแต่ขายดีอย่างมาก หากใครมีฝีมือทางด้านอาหาร หรือสามารถหาแหล่งที่เอาสินค้ากลุ่มอาหารมาขายได้แนะนำว่าให้เอามาลองขาย ซึ่งเท่าที่เห็นในกลุ่มคนขายของออนไลน์ หมวดสินค้าจำพวกอาหารแห้งได้รับความนิยมในระดับหนึ่งเลยและยังขายดีอีกด้วย ยิ่งถ้ารสชาติดี วัตถุดิบเหมาะสมกับราคา ต่อให้แพงคนก็ยังยอมจ่ายอยู่ดี

9. อุปกรณ์แพ็คสินค้า

บ้านเราคนขายของออนไลน์มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องซื้อสินค้าสำหรับการแพ็คของส่งลูกค้า โดยภาพรวมในตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะเติบโตเพิ่มมากขึ้น คุณอาจจะลองหันมาขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เหมือนกันก็ได้ โดยสินค้ากลุ่มนี้ที่จะขายดีก็ได้แก่ สก็อตเทปลายน่ารักๆ ซองไปรษณีย์ เครื่องปริ้นความร้อน กระดาษสำหรับการปริ้น สติ๊กเกอร์ Thank You น่ารักๆ บับเบิ้ล แท่นตัดเทป และอื่นๆ อีกมากมาย โดยสินค้าเหล่านี้เพื่อนๆ สามารถสั่งจากจีนได้เหมือนกัน มีให้เลือกหลายแบบเลย

10. สินค้าในกลุ่มของสัตว์เลี้ยง

“เราอดได้ แต่ลูกเราห้ามอด” บอกเลยว่าใครเป็นคนมีสัตว์เลี้ยงจะยอมทุ่มทุกอย่างเพื่อให้สัตว์เลี้ยงแสนรักได้มีความสุขมากที่สุด ในหมวดนี้คุณอาจจะหาพวกอาหารสัตว์ต่างๆ กรงสัตว์ ของเล่นน้องแมวน้องหมา กระบะทรายแมว ปลาดุ๊กดิ๊กปลอม ที่ฝนเล็บแมว เป็นต้น ในกลุ่มสินค้าหมวดนี้จะค่อนข้างวนกลับมาซื้อซ้ำบ่อย ทำให้เราขายได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย สินค้าจำพวกของเล่นสามารถหาสั่งได้จากจีนเลย ส่วนอาหารต่างๆ แนะนำว่าให้มียี่ห้อหน่อยจะดีที่สุด

สรุป

ในอนาคตหากมีหมวดไหนหรือสินค้าเฉพาะที่ได้รับความนิยม เดียวแอดจะมาเขียนเพิ่มเติมให้อีก แต่สินค้าที่แอดได้แนะนำไปนั้นเพื่อนๆ สามารถหาได้จากจีนเลย และถ้ามีเทคนิคการขายสำหรับสินค้าหมวดใดๆ ก็ตาม แอดจะมาแชร์ไว้ให้ในบทความนี้เรื่อยๆ เลยนะ


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
วิธีหาสินค้าจากจีน หาแบบไหนให้ได้ตรงกับความต้องการ ปี 2023

วิธีหาสินค้าจากจีน หาแบบไหนให้ได้ตรงกับความต้องการ ปี 2023

แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

เพื่อนๆ คงรู้กันอยู่แล้วว่าสินค้าจากจีนมีหลายล้านรายการ กว่าจะหาเจอแต่ละตัวคงหมดเวลาแน่ๆ แม้จะค้นหาด้วยคำตรงๆ แบบนั้นเองก็ตามที แต่จริงๆ มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นเยอะให้เราหาสินค้าได้ตรงกับความต้องการได้อย่างรวดเร็ว แต่ทีนี้อาจจะไม่ถึง 100% แต่มันก็จะแนะนำสินค้าใกล้เคียงให้เราได้กดหาสะดวกมากยิ่งขึ้น และขาช้อปสินค้าจากจีนก็ใช้วิธีนี้กันเยอะเพราะช่วยประหยัดเวลาพอสมควร ในเนื้อหานี้แอดจะสอนวิธีหาสินค้าจากจีนแบบง่ายๆ ให้ได้ตรงกับความต้องการ และแชร์เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้เอาไปลองใช้กันเผื่อใครเป็นมือใหม่

วิธีหาสินค้าจากจีนด้วยการค้นหา

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและเป็นวิธีทั่วไปในการค้นหา แต่ปัญหาคือพวกเว็บจีนถึงแม้จะดูเป็นสากลก็จริง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดทางด้านภาษาอยู่บ้างเล็กน้อย ซึ่งวิธีนี้ก็ไม่ยากหากคุณค้นหาด้วยภาษาอังกฤษไม่เจอ คุณสามารถใช้ภาษาจีนแปลแบบง่ายๆ ไปใส่ก็ได้ จากนั้นก็เลื่อนหาสินค้าเอา แนะนำว่าง่ายสุดให้ใช้ Google Translate แปลเอาได้เลย จากนั้นคุณก็นำไปวางในเว็บที่คุณต้องการหาสินค้า

ถ้าเอาไปวางแล้วกดค้นหา เราก็จะได้เห็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับคำที่เราเอาไปใส่ขึ้นมา อย่างรูปด้านล่างแอดลองหาด้วยคำว่า “รองเท้าแตะ” มันก็จะขึ้นมาให้เราเลือกเลย ค่อนข้างใช้ได้อยู่

อันนี้ก็จะเป็นการค้นหาแบบง่ายๆ เบสิคทั่วไป ซึ่งเพื่อนๆ สามารถใช้ Google Translate ช่วยแปลตัวสินค้าได้เหมือนกัน นอกจากนี้หากคุณเข้าไปอยู่ในเว็บไซต์นั้นๆ แล้วเป็นภาษาจีนหมดเลย และเราไม่ได้รู้ภาษาจีน เพื่อนๆ สามารถคลิกขวาบนที่ว่างๆ แล้วเลือกแปลเป็นภาษาที่เราต้องการได้ ถึงแม้ว่าจะแปลออกมาได้แปลกบ้างแต่ก็พอให้เราได้เข้าใจคุณสมบัติหรือส่วนต่างๆ ของสินค้าได้มากขึ้นด้วย

วิธีการค้นหาด้วยรูปภาพ

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าบางเว็บไซต์ของจีนสามารถค้นหาด้วยรูปภาพได้ บางครั้งเราเจอสินค้าที่เราอยากได้นะ แต่ว่าไม่รู้จะค้นหายังไงดี เราสามารถเซฟรูปภาพหรือแคปรูปภาพนั้นๆ มาไว้สำหรับการค้นหาในเว็บไซต์ของจีนได้

หากเพื่อนๆ อยากรู้ว่าเว็บไซต์ไหนสามารถค้นหาด้วยรูปภาพได้ ให้ดูตรงช่องค้นหามันจะมีรูปกล้องอยู่ อันนั้นจะเป็นการบอกว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถค้นหาด้วยรูปภาพได้ ในรูปด้านล่างนี้แอดจะขอยกตัวอย่างเป็นเว็บ 1688 ให้ได้เห็นก่อน

หากเพื่อนๆ ได้รูปที่ต้องการหาแล้ว ก็กดที่รูปกล้องได้เลย เราก็เลือกไฟล์รูปที่เราต้องการค้นหาได้เลย อย่างของแอดเองจะลองค้นหาด้วยแมสดูว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง โดยจะเลือกใช้รูปด้านล่างเลย

ตัวอย่างรูปที่จะใช้ในการค้นหา

อันนี้จะเป็นรูปที่แอดได้ลองค้นหา และปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างมีความน่าพอใจอย่างมาก โดยระบบของเว็บไซต์จะทำการแนะนำสินค้าที่ใกล้เคียงกับรูปของเรามาให้เราเห็น เราก็เลือกอันที่เราสนใจได้เลย

ลองดูอีกตัวอย่างหนึ่งกันดีกว่า เดียวคราวนี้แอดจะใช้รูป “น้องบอง” ในการค้นหาบนเว็บไซต์ 1688 ดูก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะได้ผลลัพธ์เหมือนตอนที่ค้นหาด้วยแมสรึเปล่า

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : Sanook.com

สรุปจากที่ได้ลองค้นหาด้วยรูปภาพดู ก็ยังได้ผลลัพธ์ที่ดีอยู่เหมือนกัน ได้สินค้าตรงตามที่แอดต้องการและมีน้องบองให้เลือกมากมายเต็มไปหมดเลย

สรุป

ในการสั่งของจากจีน ยังมีอีกหลายเทคนิคที่คุณสามารถเอาไปใช้ได้ และใช้งานได้จริง ไว้มีโอกาสแอดจะทดลองสั่งสินค้าจากจีนแล้วแชร์เล่าเรื่องราวให้กับทุกคนเพื่อให้ได้เห็นตัวอย่างมากขึ้น จะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่สนใจกับการสั่งของออนไลน์จากจีน เพื่อให้เป็นแนวทางในการสั่งของและจะได้นำไปใช้จริงได้สะดวกมากขึ้นด้วย


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
สอนทำ Facebook Ads ปี 2023 ตั้งแต่ 0 – 100 ฉบับละเอียดที่มือใหม่ก็ทำได้

สอนทำ Facebook Ads ปี 2023 ตั้งแต่ 0 – 100 ฉบับละเอียดที่มือใหม่ก็ทำได้

แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

ทุกวันนี้หลาย ๆ คนเริ่มหันมาทำอาชีพค้าขายกันมากยิ่งขึ้น “Facebook” ก็เป็นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยม แต่ ณ ตอนนี้ถูกลดการมองเห็นเป็นอย่างมาก ฉะนั้นหลายคนจึงเริ่มทำ “โฆษณา Facebook Ads” ในการเพิ่มการมองเห็นและสร้างยอดขาย

แต่ปัจจุบันไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน ด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกวัน และยังมีคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน ไหน Facebook ยังลดการมองเห็น ทำให้การโพสต์แต่ละครั้งแทบจะไม่มีคนเห็นเลย ฉะนั้น Facebook เค้าจึงมีเครื่องมือมาให้เราเพิ่มการมองเห็นและเพิ่มการเข้าถึงลูกค้านั้นก็คือ “Facebook Ads” นั่นเอง

สำหรับในบทความนี้จะอธิบายวิธีลงโฆษณา Facebook Ads ในปี 2021 แบบละเอียดที่สุด ตั้งแต่ทำความเข้าใจก่อนเกี่ยวกับตัว Facebook Ads ไปจนถึงขั้นตอนการปล่อยโฆษณาให้ส่งออกไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เราได้กำหนด รับรองว่าฉบับนี้ละเอียดยิบ ๆ และเชื่อว่าทุกคนถ้าอ่านครบ นำไปปรับใช้เป็น มีลูกค้าทักมาแชทแตกแน่นอน

สอนยิงแอด Facebook ฉบับละเอียดยิบ (กดเลือกอ่านได้)

6. สอนวิธีลงโฆษณา Facebook Ads ตั้งแต่ 0 – 100 ใน Facebook Ads Manager (ฉบับละเอียดยิบ)

6.1. เตรียมคอนเทนต์ รูปภาพหรือวิดีโอ ทำการโพสต์ลงไปในเพจของเราก่อน

6.2. สร้าง Campaign สำหรับการทำ Facebook Ads ขึ้นมา

6.3. เข้าใจกับกลุ่มวัตถุประสงค์ของ Facebook เบื้องต้น

6.4. เลือกวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณา

6.5. การตั้งชื่อแคมเปญ

6.6. ตรวจสอบชุดแคมเปญเบื้องต้น

6.6.1. หมวดหมู่โฆษณาพิเศษ

6.6.2 รายละเอียดแคมเปญ

6.6.3 วัตถุประสงค์แคมเปญ

6.6.4 แสดงตัวเลือกเพิ่มเติม

6.6.5. การทดสอบ A/B

6.6.6. การปรับให้เหมาะสมกับงบประมาณแคมเปญ

6.6.7. กลยุทธ์การประมูลราคาแคมเปญ

6.6.8. กลยุทธ์การประมูลราคาแคมเปญ

7. กำหนดกลุ่มเป้าหมายยิง Facebook Ads

7.1. เข้าสู่หน้าชุดโฆษณา

7.2. กำหนดปลายทางข้อความ

7.3. งบประมาณและการกำหนดเวลา

7.4. วงเงินใช้จ่ายของงบโฆษณา

7.5. กลุ่มเป้าหมาย

7.6. การกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบละเอียด

7.7. ภาษาที่เราต้องการส่งโฆษณา

7.8. ตำแหน่งการจัดวางโฆษณา

7.9. การตั้งค่าโฆษณา

7.10. การติดตาม

7.11. ตรวจสอบ Preview ของชิ้นงานที่เราจะยิงแอดเฟสบุ๊ค

สรุป

สอนยิงแอด Facebook ฉบับละเอียดยิบ (กดเลือกอ่านได้)

6. สอนวิธีลงโฆษณา Facebook Ads ตั้งแต่ 0 – 100 ใน Facebook Ads Manager (ฉบับละเอียดยิบ)

6.1. เตรียมคอนเทนต์ รูปภาพหรือวิดีโอ ทำการโพสต์ลงไปในเพจของเราก่อน

6.2. สร้าง Campaign สำหรับการทำ Facebook Ads ขึ้นมา

6.3. เข้าใจกับกลุ่มวัตถุประสงค์ของ Facebook เบื้องต้น

6.4. เลือกวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณา

6.5. การตั้งชื่อแคมเปญ

6.6. ตรวจสอบชุดแคมเปญเบื้องต้น

6.6.1. หมวดหมู่โฆษณาพิเศษ

6.6.2 รายละเอียดแคมเปญ

6.6.3 วัตถุประสงค์แคมเปญ

6.6.4 แสดงตัวเลือกเพิ่มเติม

6.6.5. การทดสอบ A/B

6.6.6. การปรับให้เหมาะสมกับงบประมาณแคมเปญ

6.6.7. กลยุทธ์การประมูลราคาแคมเปญ

6.6.8. กลยุทธ์การประมูลราคาแคมเปญ

7. กำหนดกลุ่มเป้าหมายยิง Facebook Ads

7.1. เข้าสู่หน้าชุดโฆษณา

7.2. กำหนดปลายทางข้อความ

7.3. งบประมาณและการกำหนดเวลา

7.4. วงเงินใช้จ่ายของงบโฆษณา

7.5. กลุ่มเป้าหมาย

7.6. การกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบละเอียด

7.7. ภาษาที่เราต้องการส่งโฆษณา

7.8. ตำแหน่งการจัดวางโฆษณา

7.9. การตั้งค่าโฆษณา

7.10. การติดตาม

7.11. ตรวจสอบ Preview ของชิ้นงานที่เราจะยิงแอดเฟสบุ๊ค

สรุป

1. เรื่องที่ควรรู้ก่อนที่จะเริ่มทำ Facebook Ads

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ Facebook Ads

Facebook Ads คือ โฆษณาบน Facebook ชนิดหนึ่งที่จะแสดงให้ผู้คนได้เห็น แต่ทั้งนี้โฆษณาบน Facebook ก็จะวิ่งอยู่เพียงแค่บนแพลตฟอร์มตนเองเท่านั้น ไม่ได้วิ่งไปทั้งหมดเหมือนกับ TV หรือป้ายบิลบอร์ดต่าง ๆ แต่เราสามารถกำหนดได้ว่าโฆษณา Facebook Ads นั้นเราต้องการส่งถึงใครบ้าง และสามารถทำโฆษณาได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ
อ่านเพิ่มเติมฉบับเต็ม: Facebook Ads คืออะไร?

1.1 ทำ Facebook Ads ผ่านมือถือ VS ทำผ่าน Desktop

mobile vs computer

การทำ Facebook Ads นั้นเราสามารถทำได้สะดวกเป็นอย่างมาก เพราะใช้ได้ทั้งมือถือทั้งคอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์โฆษณาสักชิ้นขึ้นมา สำหรับบนคอมนั้นจะมีลูกเล่นที่หลากหลาย ครบถ้วน มีตัววิเคราะห์หลังจากยิงโฆษณา Facebook ได้ครบกว่ามือถือพอสมควร

แต่ทั้งนี้ด้วยมือถือเป็นสิ่งที่พกพาสะดวก Facebook เลยได้ใส่ Application อย่าง “ตัวจัดการโฆษณา” เอาไว้ให้สำหรับใครที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ ให้สามารถทำโฆษณาได้สะดวกรวดเร็ว และทำได้ทุกที่ทุกเวลาด้วย

“แนะนำหากจะทำโฆษณาแบบจริงจังแล้ว ควรใช้คอมพิวเตอร์ในการทำจะดีกว่า เนื่องจากมีความละเอียด และการกำหนดวัตถุประสงค์โฆษณา Facebook Adsด้เยอะมากกว่ามือถือพอสมควร”

อ่านเพิ่มเติมฉบับเต็ม : ลงโฆษณา Facebook Ads บน มือถือ VS คอมพิวเตอร์

1.2 ตั้งเป้าหมายว่าจะยิงแอด Facebook ไปเพื่ออะไร?

การตั้งเป้าหมายให้กับธุรกิจเราก่อนที่จะเริ่มยิงแอดนั้น ช่วยให้เราเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว เราต้องการยิงไปเพื่อให้ได้อะไรกันแน่ เพื่อให้เราสามารถเลือกวัตถุประสงค์ตรงกับความต้องการของเรา โดยวัตถุประสงค์โฆษณา Facebook Ads นั้นมีทั้งสิ้น 3 หัวข้อใหญ่ และอีก 11 วัตถุประสงค์ย่อย ในการอัพเดทใหม่ล่าสุดจากเดิมมีวัตถุประสงค์อยู่ 11 ตัว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 6 ตัว จากตรงนี้เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายจากการยิง Facebook Ads ได้

1.3 คำศัพท์น่ารู้สำหรับการยิงแอด Facebook

ในการทำโฆษณา Facebook Ads นั้น เราจำเป็นจะต้องรู้ศัพท์ต่าง ๆ เพื่อที่เราจะได้เข้าใจข้อมูลในหน้าวิเคราะห์จากการยิงโฆษณาของ Facebook

Vocabulary

อ่านเพิ่มเติมแบบละเอียดที่ : คำศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับการทำ Facebook Ads

2. เริ่มสร้างเพจ Facebook

ก่อนที่เราจะทำโฆษณา Facebook Ads เราจะต้องมีเพจเสียก่อน เพราะว่า Facebook ไม่อนุญาตให้ทำการโปรโมทโพสต์หรือเนื้อหาใด ๆ ในเฟสส่วนตัว ดังนั้นแล้วเราจำเป็นจะต้องสร้างเพจขึ้นมาก่อน

การสร้างเพจนั้น ขั้นแรกให้เราเลือกที่คำว่า “เพจ” ซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือตามรูปด้านล่างกรอบสีแดง

แอดได้มีการอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างเพจ Facebook 2022 สร้างอย่างไรให้ขายของได้ เหมาะทั้งกับสายยิงแอดและสายฟรี

วิธียิงแอดโฆษณา 2020

เมื่อกดเข้ามาแล้วก็จะเจอกับหน้าดังกล่าว ให้เรากดสร้างเพจได้เลย

สร้างเพจ Facebook

3. ตั้งชื่อเพจ อัพโหลดรูปภาพ ใส่ข้อมูลเพจของเรา

หลังจากสร้างเพจ Facebook แล้วให้เรากรอกชื่อเพจ ข้อความทักทายตามกรอบสีแดงให้เรียบร้อย

ใส่รายละเอียดเพจ

หลังจากที่กรอกรายละเอียดเรียบร้อยก็ให้เราใส่รูป Cover Photo รวมถึงรูปโลโก้ประจำเพจของเราได้เลย

รูปประจำเพจ Facebook

เมื่อใส่รายละเอียดของเพจรวมถึงรูปภาพเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถกดสร้างเพจ Facebook ได้เลย เมื่อสร้างเสร็จก็จะได้หน้าตาแบบรูปภาพด้านล่างเลย

สร้างเพจเรียบร้อย

คอร์สเรียนแต่งรูปง่ายๆด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ได้รูปมือโปร เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

4. รู้จักกับบัญชีโฆษณา

บัญชีโฆษณาช่วยทำให้เกิดความสะดวกเป็นอย่างมากสำหรับใครที่มีเพจให้ดูแลหลายเพจ ช่วยให้เราไม่ต้องเข้าออกบัญชีบ่อย ๆ โดยที่เราสามารถเข้าใช้งานบัญชีแต่ละเพจได้เลยทันที สำหรับใครที่มีหลาย ๆ เพจ จึงควรสร้างบัญชีโฆษณาเอาไว้ ช่วงหลังๆ มาได้มีการอัพเดท Facebook Algorithm บ่อยครั้งมาก การมีบัญชีสำรองหลายๆ ตัวก็ช่วยให้ธุรกิจของเราไม่สะดุดเมื่อเวลาถูกแบนบัญชี Facebook

4.1. ความแตกต่างระหว่างบัญชีส่วนตัวและบัญชีโฆษณา

สำหรับบัญชีส่วนตัวนั้นก็คือเมื่อเราสร้างเพจและเมื่อทำการ Boost Post หรือใช้งาน Facebook Ads Manager บัญชีโฆษณาส่วนตัวก็จะถูกสร้างขึ้นมาทันทีโดยอัตโนมัติ ซึ่งบัญชีโฆษณาส่วนตัวจะสามารถดูแลได้เพียงเพจเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเป็นบัญชีแบบบัญชีธุรกิจ จะสามารถดูแลได้หลายๆ เพจพร้อมกันได้ง่ายมากขึ้น

4.2. เริ่มต้นควรสร้างบัญชีธุรกิจเลยหรือไม่

หากคุณทำเพจแค่เพจเดียวหรือสองเพจ ไม่จำเป็นต้องสมัครบัญชีแบบธุรกิจก็ได้ เพราะอาจจะยังไม่เหมาะมากนัก โดยบัญชีธุรกิจเหมาะกับสายงาน Agency หรือบริษัทที่มีเพจแยกย่อยแต่ละสินค้าเป็นจำนวนมากแบบนั้นจะเหมาะกว่า แรกๆ อาจจะยังไม่ต้องเริ่มสร้าง ใช้บัญชีส่วนตัวไปก่อน

5. ความแตกต่างระหว่าง Boost Post กับ Facebook Ads Manager

Boost Post กับ Ad Mananger

การทำ Facebook Ads สามารถทำได้สองวิธีคือ การใช้วิธีการ Boost Post และการทำโฆษณาผ่าน Facebook Ads Manger ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งคู่ แล้วแต่ว่าใครต้องการทำโฆษณาในรูปแบบไหน และชื่นชอบแบบไหนมากกว่ากัน

5.1. Boost Post คืออะไร?

Boost post การสร้างโฆษณาแบบรวดเร็ว เน้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง ๆ เหมาะกับประเภทโฆษณา Brand Awareness เป็นส่วนใหญ่

5.2. Facebook Ads Manager คืออะไร?

Facebook Ads Manager เป็นเครื่องมือที่กำหนดได้ละเอียดครบถ้วน มีวัตถุประสงค์ให้ครบทั้ง 3 ชนิด สามารถดูข้อมูลหลังจากที่เรายิงโฆษณาออกไปได้แล้ว

advantage

“ถ้าจะทำโฆษณาแบบจริงจังก็แนะนำให้ใช้ Facebook Ads Manager หากถามว่าใช้ Boost Post ได้หรือไม่นั้น ตอบเลยว่าได้เหมือนกัน แต่แนะนำให้ใช้ตัว Ads Manager จะดีกว่า”

อ่านเพิ่มเติมแบบละเอียดที่ : ความแตกต่างระหว่าง facebook Ads Manager กับ Boost Post คือ

6. สอนวิธีลงโฆษณา Facebook Ads ตั้งแต่ 0 – 100 ใน Facebook Ads Manager (ฉบับละเอียดยิบ)

สำหรับการทำโฆษณา Facebook Ads หลาย ๆ คนก็หวังว่าจะช่วยทำให้เป้าหมายที่คุณตั้งไว้ได้ประสบความสำเร็จ แต่บางคนอาจจะยังไม่เคยทำโฆษณาและไม่รู้วิธีทำ วันนี้จะสอนการทำโฆษณาบน Facebook ตั้งแต่ 0 – 100 เพื่อเป็นแนวทางสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าต้องยิงอย่างไร

สอนยิงแอดเฟสบุ๊ค

6.1 เตรียมคอนเทนต์ รูปภาพหรือวิดีโอ ทำการโพสต์ลงไปในเพจของเราก่อน

เตรียมคอนเทนต์ รูปภาพหรือวิดีโอ ทำการโพสต์ลงไปในเพจของเราก่อน เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวบ้างก่อน และนอกจากนี้เราสามารถยิงโฆษณา Facebook Ads ด้วยโพสต์ที่เราเคยทำได้ด้วย

6.2 สร้าง Campaign สำหรับการทำ Facebook Ads ขึ้นมา

สำหรับการสร้างแคมเปญนั้นก็เหมือนกับเป็นฐานของการทำโฆษณา โดยพื้นฐานแล้วหากเราต้องการทำโฆษณาเราก็จะต้องเริ่มด้วยแคมเปญเสมอ คล้าย ๆ กับเป็นแกนหลักของการที่เราทำโฆษณาชุดนี้ไปเพื่ออะไร เช่น ลดราคาสินค้า ต้องการข้อมูลลูกค้า เป็นต้น

สร้างโฆษณา

6.3 เข้าใจกับกลุ่มวัตถุประสงค์ของ Facebook เบื้องต้น

การทำโฆษณาบน Facebook จำเป็นจะต้องเลือกวัตถุประสงค์ในการยิงแอด Facebook ด้วยทุกครั้ง เพื่อให้ Facebook เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับวัตถุประสงค์เราได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

โดยสามารถอ่านแบบละเอียดได้ที่ : วัตถุประสงค์โฆษณา Facebook Ads

6.4 เลือกวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณา

เมื่อเข้าใจวัตถุประสงค์แต่ละตัวที่ Facebook ได้มีมาให้ ก็เลือกวัตถุประสงค์ตามที่เราได้วางเอาไว้ได้เลย เช่น หากเราต้องการยอดไลค์ แชร์ คอมเมนต์โพสต์หรือเพจก็ให้เลือกที่ “การมีส่วนร่วม” หรือหากต้องการให้ลูกค้าแชทเข้ามาก็เลือกที่ “ข้อความ”

เลือกวัตถุประสงค์

6.5 การตั้งชื่อแคมเปญ

ตั้งชื่อแคมเปญ

ในการตั้งชื่อแคมเปญเราควรที่จะตั้งชื่อแบบที่เราเข้าใจ และสามารถค้นหาได้ง่าย โดยควรตั้งให้รู้เรื่องเข้าใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เราทำโฆษณา เมื่อเราทำโฆษณาอย่างต่อเนื่องแล้ว เราก็สามารถค้นหาโฆษณาตัวดังกล่าวย้อนหลังได้ง่ายจากฟังก์ชัน Search และ Filter ของ Facebook

การตั้งชื่อแคมเปญที่ดีอาจจะต้องทำให้เป็นรูปแบบที่เราเข้าใจ มองเห็นแล้วเรารู้ทันทีว่าโฆษณาตัวนี้คือสินค้าอะไร ยิงไปรูปแบบไหน เพื่อที่จะง่ายต่อการค้นหา ตัวอย่างการตั้งชื่อโฆษณา เช่น
วันที่ 01/01/64 – ยาลดน้ำหนัก – Awareness
01 – 05 มกราคม 64 – รองเท้าวิ่งยี่ห้อสบายเท้ารุ่น A01 – ราคา 550 – ข้อความ
คนเข้าเว็บไซต์ – ABC.com – มีส่วนร่วมในช่องทาง Facebook, IG
อ่านเทคนิคการตั้งชื่อแคมเปญแบบละเอียดที่ : เทคนิคการตั้งชื่อแคมเปญ

ในแคมเปญนั้นก็จะมีหมวดย่อย ๆ ลงมาอีกนั่นก็คือ

    1. แคมเปญ
    2. ชุดโฆษณา
    3. โฆษณา

ให้เราใส่ชื่อต่าง ๆ ลงในแต่ละชุดแคมเปญให้เรียบร้อยและกดถัดไปได้เลย

หลังจากที่ได้ตั้งค่าการสร้างชุดแคมเปญโฆษณาแล้ว Facebook Business Manager ก็จะนำเรามาอีกหน้านึง เมื่อถึงหน้านี้แล้วก็สามารถตั้งค่าตามลำดับและตามความเหมาะสมของแต่ละธุรกิจได้เลย

6.6. ตรวจสอบชุดแคมเปญเบื้องต้น

หน้าแรกโฆษณา

6.6.1. หมวดหมู่โฆษณาพิเศษ

หากโฆษณาของคุณเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม การเลือกตั้งหรือการเมือง จะต้องกดเปิดหมวดหมู่โฆษณาพิเศษเพื่อให้ทาง Facebook ได้ตรวจสอบโฆษณาดังกล่าวและไม่ผิดหลักการทำโฆษณาของ Facebook

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาพิเศษที่ : https://www.facebook.com/business/help/298000447747885

โฆษณาพิเศษ

6.6.2. รายละเอียดแคมเปญ

 ตรงนี้ Facebook มีตายตัวอยู่แล้วนั้นก็คือการประมูลนั้นเอง โดยระบบของ Facebook จะเป็นผู้ที่กำหนดการมองเห็นของโฆษณานั้น ๆ ให้

รายละเอียดแคมเปญ

6.6.3. วัตถุประสงค์แคมเปญ

หากเปลี่ยนใจจะเปลี่ยนวัตถุประสงค์ ก็สามารถแก้ไขในขั้นตอนนี้ได้เหมือนกัน

เปลี่ยนวัตถุประสงค์

​6.6.4. แสดงตัวเลือกเพิ่มเติม

อันนี้เราสามารถกำหนดงบประมาณในการโฆษณาได้ว่าตลอดระยะเวลาแคมเปญทำโฆษณา Facebook Ads เรามีงบไว้ที่เท่าไหร่ อย่างในรูปมีงบ 3,000 บาท ก็ใส่ตามงบที่มีเลย

หลังจากตั้งค่าด้านบนเสร็จตามรูปด้านล่างแล้วให้เลื่อนลงมาด้านล่างก็จะเจอหน้าดังต่อไปนี้ สามารถตั้งตามลำดับต่อไปได้เลย

6.6.5. การทดสอบ A/B

เป็นการทดสอบชุดโฆษณาระหว่าง 2 ชุดโฆษณา สำหรับมือใหม่อาจจะยังไม่ต้องทดสอบ เพราะในนี้มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะพอสมควร เดียว Marketing In Secret จะมาเจาะลึกให้อีกครั้งสำหรับการทำชุดโฆษณาสำหรับทดสอบ A/B Testing

AB Testing

6.6.6. การปรับให้เหมาะสมกับงบประมาณแคมเปญ

ตรงจุดนี้เราสามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้ชุดโฆษณาใช้เงินต่อวันเป็นจำนวนเท่าไหร่ อย่างของ Marketing In Secret มีงบ 3,000 บาท ต้องการโฆษณาสัก 5 วัน เอา 3,000/5 = 5 – 600 บาท/วัน เผื่อเหลือเผื่อขาด แต่ตรงนี้จะกำหนดหรือไม่ก็ได้ เพราะในหน้าถัดไปเราก็กำหนดได้เช่นกัน

ปรับงบแคมเปญ

นอกจากนี้หากกดตรง Dropdown ตรง “งบประมาณต่อวัน” ก็จะมีตัวเลือกอีกตัวคือ “งบประมาณตลอดอายุการใช้งาน” หากเราเลือกเป็นตัวนี้การเพิ่มวงเงินค่าใช้จ่ายของแคมเปญก็จะหายไป อันนี้เราเลือกได้ว่าใช้เป็นแบบไหน ใครที่กลัวเงินไหลมากเกินไป สามารถเลือก “งบประมาณตลอดอายุการใช้งานได้เลย”

เลือกงบโฆษณา

6.6.7. กลยุทธ์การประมูลราคาแคมเปญ

 ตรงจุดนี้หากเป็นมือใหม่ แนะนำให้ใส่ “ต้นทุนต่ำที่สุด” ไปเลย เพราะเดียว Facebook เค้าจะจัดการงบประมาณของเราให้วิ่งไปหากลุ่มเป้าหมายดีที่สุด ในราคาที่ต่ำที่สุด

ราคาประมูล

6.6.8. การกำหนดเวลาแสดงโฆษณา

ตรงนี้ปล่อยไปเลยให้แสดงตลอดเวลา เพราะเราไม่สามารถแก้ไขได้ หากต้องการตั้งเป็นเวลา เราอาจจะต้องใช้การเปิด – ปิด เอาเอง เมื่อเราตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้กดถัดไปได้เลย

รวมกลุ่มเป้าหมายของสินค้าทุกชนิดไว้ใน E-Book เล่มเดียว ยิงแอดได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น

7. กำหนดกลุ่มเป้าหมายยิง Facebook Ads

ชุดโฆษณากลุ่่มเป้าหมาย

7.1. เข้าสู่หน้าชุดโฆษณา

เมื่อเข้าสู่หน้าโฆษณาแล้ว ก็จะเจอกับหน้าดังกล่าวตามรูปด้านล่าง ให้เราเริ่มตั้งค่า “หน้าชุดโฆษณา” ไปทีละขั้นตอนได้เลย

ลำดับตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย

7.2. กำหนดปลายทางข้อความ

เป็นการเลือกปลายทางของข้อความว่าเราต้องการให้ลูกค้าของเราทักแชททางไหน ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปของเราก็จะเลือกเป็น Messenger อยู่แล้ว หากใครมีร้านค้าบน IG ก็สามารถรวมช่องทางการแชทให้อยู่ใน Messenger ได้เลย

ปลายทางข้อความ

7.3. งบประมาณและกำหนดเวลา

ตรงนี้เราสามารถกำหนดได้ว่าจะปล่อยให้โฆษณาเริ่มต้นวันไหนและสิ้นสุดเมื่อไหร่ ถ้าเราต้องการใส่วันสิ้นสุดให้ติ๊กตรงช่องสี่เหลี่ยม แล้วจะมีชุดวันที่กำหนดวันที่สิ้นสุดมาให้อีกชุดหนึ่ง หรือหากเราไม่ต้องการใส่วันสิ้นสุด ก็สามารถปล่อยให้โฆษณา Facebook Ads วิ่งจนครบกำหนดวงเงินของเราได้

กำหนดงบและเวลา

7.4. วงเงินใช้จ่ายของงบโฆษณา

เป็นตัวที่กำหนดวงเงินใช้จ่ายโฆษณาในแต่ละวัน ในช่อง “มูลค่าน้อยสุดต่อวัน” ส่วนตัวจะไม่ค่อยใส่ จะไปเน้นตรงที่ “มูลค่าสูงสุดต่อวัน” ที่เป็นตัวควบคุมการใช้จ่ายงบยิงแอดในแต่ละวันที่เรายิงไป เพื่อไม่ให้เกิดตามที่เรากำหนด อย่างเช่น ไม่อยากให้เกิด 500 บาท ก็ใส่ไป 450 – 500 บาทก็ได้

กำหนดงบแอด Facebook

7.5. กลุ่มเป้าหมาย

ตรงนี้มือใหม่อาจจะกังวลว่าจะยิงไม่ถูกกลุ่ม เลยจะขอแนะนำทริคเล็ก ๆ ส่วนตัวของ Marketing In Secret ให้ภายในเนื้อหานี้ โดยไล่ทีละสเต็ปตั้งแต่ช่องแรกของกลุ่มเป้าหมายเลย

เซตกลุ่มเป้าหมายตามลำดับ

1. กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เราเคยทำโฆษณา Facebook Ads ไปแล้ว และมีการบันทึกกลุ่มเป้าหมายไว้ เราสามารถดึงข้อมูลกลุ่มเป้าหมายเก่ากลับมาใช้ใหม่อีกครั้งได้ แต่สำหรับการยิงครั้งแรก จะไม่มีข้อมูลดังกล่าว ฉะนั้นข้อนี้ข้ามไปเลย

แนะนำบทความน่าสนใจ : วิธีหากลุ่มเป้าหมาย Facebook ให้ได้กลุ่มที่มีคุณภาพมากที่สุด

2. ตำแหน่งที่ตั้งหากเราต้องการยิงแค่ในประเทศที่เราอาศัยอยู่ก็เลือกตามประเทศนั้น ๆ ได้เลย แต่ในที้นี้ขอยกตัวอย่างเป็นประเทศไทย เพราะเราไม่รู้ว่าจังหวัดไหนเป็นลูกค้าเรา ค่อยมาวิเคราะห์อีกครั้งหลังจากทำโฆษณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจากช่องตำแหน่งที่ตั้งก็สามารถเลือกการนำส่งโฆษณาได้อีก 4 รูปแบบ ซึ่งมีรายละเอียดตามรูปภาพเลย

เลือกตำแหน่งที่ตั้ง

การเลือกตำแหน่งที่ตั้งสามารถใช้ให้เหมาะสมได้เลย สมมติว่า Marketing In Secret ขายเสื้อผ้า เลยต้องการเลือกคนที่อาศัยอยู่ในตำแหน่งนี้ และคนที่เพิ่งมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เห็น

 “ตำแหน่งที่ตั้ง สามารถระบุเขตพื้นที่ จังหวัด รวมถึงรหัสไปรษณีย์ลงไปในนี้ได้เหมือนกัน”

อายุและเพศ

3. ในส่วนของอายุนั้น การยิงแอดครั้งแรกอยากให้ปล่อยให้วิ่งหาลูกค้าไปก่อน เพราะเคยมีเคสนึงที่ยิงแอดขายเสื้อผ้าคนวัยทำงานสำหรับคนอายุประมาณ 25 – 40 ปี ปรากฏว่า กลุ่มลูกค้าใหญ่ ๆ กลายเป็นวัย 40+ เสียเป็นส่วนใหญ่ซะงั้น ดังนั้นแล้วเราไม่ต้องกำหนดอายุ แล้วค่อยมาดูอีกทีว่าช่วงอายุเท่าไหร่ที่น่าจะเป็นลูกค้าของเรา ให้ตัวเลขเป็นคนบอกเราจะดีที่สุด

4. ต่อมาเป็นเพศก็จะปล่อยให้ยิงเป็นเพศทั้งหมดเช่นกัน เพราะเราไม่รู้ว่ากลุ่มลูกค้าเราจะเป็นใครกันแน่เมื่อขายบน Facebook อย่างมีเคสนึงเป็นกางเกงในคุณผู้ชาย แต่เมื่อยิงแอด Facebook ออกไปแล้ว ปรากฎว่าผู้หญิงเห็นมากกว่าและเกิดการซื้อมากกว่าผู้ชาย ดังนั้นอย่าคิดไปเองทั้งหมด ให้คิดคร่าว ๆ ไว้ แล้วลองยิงแอดสัก 2 – 3 ครั้งดู เท่านี้ตัวเลขก็จะเป็นคนบอกคุณเองว่าลูกค้านั้นเป็นใครกันแน่

7.6. การกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบละเอียด

เจาะกลุ่มเป้าหมาย

ขั้นนี้หลายคนคงรอคอยกันมานาน ในขั้นนี้จะมีกลุ่มเป้าหมายที่แบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่ ๆ คือ “ข้อมูลทางประชากรศาสตร์ ความสนใจ และพฤติกรรม” คร่าว ๆ ให้เราลองวิเคราะห์ว่าลูกค้าเป็นใครโดยเบื้องต้นที่ยกตัวอย่างคือ “ชุดเดรสผู้หญิง” ตัวอย่างการวิเคราะห์ เช่น

“ชุดเดรสผู้หญิง เหมาะกับวัยทำงาน สาว ๆ ออฟฟิศ อายุ 24 – 35 ปี สนใจในแฟชั่น ชอบการแต่งตัว และชอบความสวยงาม”

ดังนั้นจึงได้ลองยิง Facebook เป็นคนที่สนใจ “ชุดเดรสและเสื้อผ้าผู้หญิง” แต่กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้กว้างเกินไป ก็เลยบีบให้แคบลงด้วยการที่กลุ่มเป้าหมายต้องชอบ “Eveandboy และ Zara” ซึ่งก็คือนอกจากจะสนใจชุดเดรสแล้ว ก็ต้องชอบหรือถูกใจเกี่ยวกับเสื้อผ้าแบรนด์ซาร่าและถูกใจเครื่องสำอาง Eveandboy ด้วย (Eveandboy เป็นเครื่องสำอางที่ผู้หญิงชื่นชอบอยู่แล้ว จึงคาดว่าอาจจะได้ผลสำหรับการใส่กลุ่มเป้าหมายรวม) แต่จะถูกต้องหรือไม่นั้น ต้องให้ตัวเลขเป็นคนบอกหลังจากการยิงโฆษณา Facebook Ads แล้ว

3 พฤติกรรม

“Facebook มีกลุ่มเป้าหมายอยู่หลัก 1,000 กลุ่มที่แอบไว้ไม่ได้แสดงให้เห็นตรงช่องแนะนำ ทางเราจึงได้ใช้ เครื่องมือเจาะกลุ่มเป้าหมายของ InterestPRO ที่มีการใช้ API ของ Facebook เข้าไปแอบดูกลุ่มเป้าหมายเชิงลึกที่ซ่อนอยู่ และนำมาใช้ทำโฆษณา Facebook Ads”

การขยายการกำหนดเป้าหมายโดยละเอียด

อันนี้ส่วนตัวไม่ติ๊กเลือกเพราะจำนวนเงินที่น้อยเกินไป โดยวิเคราะห์จากกลุ่มเป้าหมายก่อนการบีบให้แคบลงมากถึง 27 ล้านคน ซึ่งวงเงิน 3,000 ไม่สามารถนำส่งได้ถึง 27 ล้านคนแน่นอน ดังนั้นแล้วจึงไม่เลือกการปรับปรุงประสิทธิภาพ เมื่อเราตั้งค่าเสร็จก็จะได้หน้าตาประมาณนี้เลย (ถ้าเป็นไปได้พยายามอย่าให้กลุ่มเป้าหมายเกิน 3 ล้านคน เพราะมันอาจจะส่งได้ใม่ถึงขนาดนั้น และ AI Facebook ที่ทำโฆษณาอาจจะสับสนได้)

ขยายกลุ่มเป้าหมาย

หลังจากตั้งค่ากลุ่มเป้ามหมายทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้หน้าตาประมาณนี้เลย

ตั้งค่ากลุ่มเป้า้หมายเสร็จ

7.7. ภาษาที่เราต้องการส่งโฆษณา

ตรงนี้แล้วแต่เราเลยว่าจะเลือกให้นำส่งโฆษณาให้กับคนที่ใช้ภาษาใด แต่ส่วนตัวแนะนำเป็น “ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ” เนื่องจากว่าคนไทยบางคนก็ยังใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักบน Facebook อยู่เหมือนกัน ดังนั้นแล้วหากเราเลือกเฉพาะภาษาไทย คนไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษบน Facebook ก็จะมองไม่เห็น

ภาษาโฆษณา

เมื่อตั้งค่าด้านบนเสร็จแล้ว ก็ให้เลื่อนลงมาตั้งค่ากันต่อด้านล่างจะเจอในส่วนของ “ตำแหน่งการจัดวาง”

7.8. ตำแหน่งการจัดวางโฆษณา

ตำแหน่งจัดวาง

ตำแหน่งการจัดวางนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ

ตำแหน่งการจัดวางอัตโนมัติ คือ Facebook จะหาตำแหน่งการจัดวางที่เหมาะสมให้เราทั้งใน Facebook, IG, Messenger โดยเลือกตำแหน่งการจัดวางในฟีดข่าว สตอรี่ ข้อความ ในบทความ หรืออื่น ๆ ที่เป็นของ Facebook โดยอัตโนมัติ

ตำแหน่งการจัดวางที่กำหนดเอง คือ เราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้แสดงเฉพาะแพลตฟอร์มไหนบ้างเช่น Facebook, IG, Messenger เป็นต้น รวมถึงกำหนดได้ถึงการจัดวางบนที่ต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มนั้น ๆ

ข้อแนะนำ หากไม่รู้ว่าจะจัดวางตรงไหนถึงจะได้ผลที่สุด ให้เราเลือกการวางแบบอัตโนมัติไปก่อนและค่อยมาทดสอบการจัดวางอีกครั้งหนึ่ง

อัพเดทเพิ่มเติมปี 2022 Facebook ได้เปิดให้ยิงแอดขึ้นบนวิดีโอ Facebook Reels ได้แล้ว แอดว่าโอเคมากเลย ใครที่เก่งการทำวิดีโอแนะนำทดลองดูก็เวิร์คนะ

ตรงนี้ขอเลือกเป็น “ตำแหน่งการจัดวางอัตโนมัติ” และส่วนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องเราก็ข้ามไปได้เลย

ตำแหน่งแสดงโฆษณา

ถัดไปก็จะเป็นเรื่องการปรับให้เหมาะสมและการแสดงโฆษณา หน้าตาก็จะเป็นแบบในรูปเลย

ตั้งค่าแสดงโฆษณา

โดยในรูปเราสามารถเลือกตรงที่ “การตอบกลับ” และจะมี Dropdown มาให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ เราสามารถเลือกได้ให้ตรงกับตามวัตถุประสงค์ของเราเลยว่าเราต้องการให้คนมีส่วนร่วมกับเราในรูปแบบใด เช่น “การคลิกโฆษณา การสนทนาผ่านข้อความ การแสดงโฆษณาให้คนที่สนใจและอยู่ในกลุ่มเป้าหมายของเรา” ตรงนี้ในส่วนตัวจะขอเลือก “ผู้แสดงความสนใจ” เนื่องจากวัตถุประสงค์ของ Marketing In Secret คือต้องการให้กลุ่มเป้าหมายเห็นมากที่สุด

ปรับแสดงโฆษณา

เมื่อตั้งค่าตรงปุ่มการตอบกลับเสร็จแล้ว ส่วนอื่น ๆ อย่างเช่น การควบคุมต้นทุน และเกณฑ์การเรียกเก็บเงินก็ข้ามไปได้เลย เพราะเราได้กำหนดไปหมดแล้วตั้งแต่ต้น

7.9. การตั้งค่าโฆษณา

ตรงนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกสร้างใหม่ ทำโพสต์ใหม่ หรือใช้โพสต์เดิมที่มีอยู่แล้ว แต่เดียวจะสอนสำหรับการสร้างโฆษณาใหม่ก่อน ส่วนใครที่อยากใช้โพสต์ที่มีอยู่แล้วในการทำโฆษณา ก็เลือกใช้โพสต์ที่มีอยู่ จากนั้นเราก็เลือกโพสต์ที่ต้องการ พอได้แล้วเราก็เหลือแค่เลือกพื้นที่การจัดวางเท่านั้น

ก่อนอื่นให้เราเลือกว่าเราอยากทำโฆษณาแบบไหน มีให้เลือกทั้งภาพเดี่ยว และภาพสไลด์

ตั้งค่าแสดงผลโฆษณา
ตัวอย่างรูปเดี่ยว

ตัวอย่างภาพเดี่ยวที่ใช้สำหรับโฆษณา

ตัวอย่างภาพสไลด์

ตัวอย่างภาพสไลด์ที่ใช้สำหรับโฆษณา

ตรงนี้เราสามารถเพิ่มรูปตรงคำว่า “เพิ่มสื่อ” ตามปกติได้เลย หรือแม้กระทั่งจะนำรูปหลาย ๆ รูปแล้วให้ Facebook ทำเป็นวิดีโอให้ก็ยังได้

เมื่อเราเลือกได้แล้วว่าจะใช้รูปภาพหรือวิดีโอสำหรับการทำโฆษณา ให้เราไปเลือก “เพิ่มสื่อ” และเมื่อเพิ่มเข้ามมาแล้วก็จะมี Preview แสดงผลอยู่ด้านขวามือ แต่ละช่องจะแสดงตรงไหนนั้นสามารถอ่านรายละเอียดด้านล่างและดูรายละเอียดประกอบตามได้เลย

  • ช่อง A จะแสดงตัวอย่างอยู่ตรงหมายเลข 1
  • ช่อง B จะแสดงผลอยู่ตรงหมายเลข 2
  • ช่อง C จะแสดงผลอยู่ตรงหมายเลข 3
จัดตำแหน่งโฆษณา

7.10. การติดตาม (แนะนำว่ามือใหม่ข้ามไปเลย ยังไม่ต้องใส่)

ในการติดตามนั้น เราสามารถใช้ได้กับโฆษณาที่เป็นวัตถุประสงค์กับ “คอนเวอร์ชั่น” จะเกิดผลดีที่สุด แต่แบบอื่น ๆ ก็สามารถใส่ได้เหมือนกัน โดยการติดตามนั้นแบ่งออกเป็น 3 หมวดย่อย ๆ คือ

เหตุการณ์บนเว็บไซต์ หรือที่เราคุ้นเคยคือ Facebook Pixel นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ของมันก็มีมากมาย ใช้สำหรับเก็บข้อมูลลูกค้าที่กระทำสิ่งใด ๆ บนเว็บไซต์ของเรา เช่น การกดใส่ตระกร้า การชำระค่าสินค้า เป็นต้น

เหตุการณ์ในแอพ คือ หากคุณต้องการให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ก็สามารถทำตามขั้นตอนการตั้งค่าเพื่อเก็บข้อมูลว่ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ทำสิ่งใดบ้างกับโฆษณาแอพพลิเคชั่นของเรา

พารามิเตอร์ URL คือตัวที่ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโฆษณาของคุณ สามารถระบุแหล่งที่มาของจำนวนผู้เข้าชมโฆษณาได้ว่ามาจากที่ใด และสามารถแสดงให้เห็นได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคลิกเชื่อมโยงลิงค์ไปยังที่ใดได้บ้าง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพารามิเตอร์ Facebook : www.facebook.com/business/help/1016122818401732

การติดตาม

หลังจากตั้งค่าเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยตามที่คุณต้องการ ก็จะได้ตามแบบข้างล่างเลย

ตั้งค่าโฆษณาเสร็จ

7.11. ตรวจสอบ Preview ของชิ้นงานที่เราจะยิงแอดเฟสบุ๊ค

เมื่อทำครบทุกขั้นตอน อาจจะย้อนเช็ครายละเอียดสักนิด เมื่อถูกต้องตามแบบที่เราต้องการแล้วก็กดเผยแพร่ได้เลย ทีนี้ก็จะเป็นของทาง Facebook แล้วที่จะตรวจสอบข้อมูลโฆษณา Facebook Ads ของเราว่าถูกต้องตามกฎของเค้ารึเปล่าโดยอาจจะใช้เวลา 5 นาที – 1 วันสำหรับการยิงครั้งแรก

หากได้เผยแพร่โฆษณาแล้ว ต้องติดตามดูผลวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด เพื่อที่เราจะนำข้อมูลที่ Facebook ได้มานำมาปรับปรุงโฆษณาหาสูตรของเราเฉพาะ เพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายและชิ้นงานโฆษณาที่ดีที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในการยิงแอด Facebook เหมือนหลาย ๆ คน

สรุป

การทำโฆษณาด้วย Facebook Ads ก็คือการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Facebook ซึ่งช่วยให้ชิ้นงานโฆษณาของเรามองเห็นและสามารถเป็นไปตามที่เราต้องการได้ เช่น ต้องการยอดขาย ต้องการยอดไลค์ แชร์ คอมเมนต์ ก็ต้องทำโฆษณาเพื่อให้เข้าถึงผู้คนมากยิ่งขึ้น การยิงโฆษณาครั้งแรกไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จดังที่หวัง แต่คนที่ประสบความสำเร็จได้นั้น เค้าเรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุง ทดลองใหม่จนได้สูตรลับแห่งความสำเร็จเฉพาะตัวเอง ฉะนั้นคุณอย่ารอช้า รีบลงมือทำให้เร็วที่สุด ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

สำหรับการยิงแอดเฟสบุ๊คปี 2022 ก็ถือว่ามีความดุเดือดไม่น้อย แล้วแอดจะมาแนะนำเทคนิคเพิ่มเติมให้อีกครั้งหนึ่ง


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
สร้างเพจ Facebook ขายของแบบง่ายๆ พร้อมเทคนิคสุดเจ๋งให้ขายได้

สร้างเพจ Facebook ขายของแบบง่ายๆ พร้อมเทคนิคสุดเจ๋งให้ขายได้

แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

โลกออนไลน์ปัจจุบันเป็นเหมือนทั้งช่องทางสำหรับการติดต่อเพื่อนๆ คนรู้จัก หรือแชร์เรื่องราวต่างๆ ให้กับเพื่อนของเรา แต่ไม่ใช่เพียงแค่ไว้สำหรับติดต่อเท่านั้น ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งที่ทำให้คนสามารถสร้างตัวกันได้มากขึ้นจากการ “ขายของออนไลน์” ซึ่งหนึ่งในช่องทางยอดนิยมก็คือ “Facebook” ในบทความนี้เราจะพาคุณมาสร้างเพจ Facebook ขายของกันว่าทำยังไง และแอดจะแชร์วิธีการสร้างเพจให้คุณขายได้แน่นอนแบบ 100% หากเอาไปปรับใช้ให้ดี

เริ่มต้นสร้างเพจ Facebook ขายของ

Step 1

เริ่มต้นเลยให้เราเปิดหน้า Facebook ขึ้นมา แอดจะขอสอนบนเวอร์ชั่นคอมพิวเตอร์ก่อนนะ จากนั้นให้เรามองที่ด้านซ้ายมือถ้ามีคำว่าเพจก็ให้กดเข้าไปเลย แต่ถ้าไม่มีให้เรามาเลือกตรง “เมนู” ตามรูปด้านล่างเลย แล้วจากนั้นก็เลื่อนหาคำว่า “เพจ” ส่วนเฟสนี้แอดใช้สำหรับเป็นแอดมินเพจอย่างเดียวมันเลยขึ้นมาตรงล่าสุด เพราะเป็นฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยสุดแล้วสำหรับเฟสนี้

วิธีสร้างเพจ Facebook

Step 2

เมื่อหาเจอแล้วให้เรากดเลือกที่ “สร้างเพจใหม่” ได้เลย

Tip & Trick หากคุณใช้เฟสที่พึ่งสร้างได้ไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือน แล้วไม่มีความเคลื่อนไหวเลย แอดขอแนะนำให้คุณเข้าใช้งานเฟสนั้นบ่อยๆ เล่นให้เหมือนคนปกติเล่นมากที่สุด หากคุณเอามาสร้างเลยเสี่ยงที่จะโดนให้ยืนยันตัวตนได้ง่าย และหากสร้างแล้วโดนแบนบ่อยเดียวพอสร้างอีกก็โดนแบนอย่างแน่นอน

เริ่มสร้างเพจ Facebook

Step 3

กรอกข้อมูลให้หมดครบถ้วนทุกช่อง แอดขอแนะนำวิธีการตั้งชื่อสักนิดว่าควรตั้งอย่างไรดี เพื่อให้คนหาเจอและง่ายต่อการค้นหาของผู้ใช้งาน สำหรับการตั้งชื่อเพจจะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ คือ ตั้งเป็นชื่อแบรนด์ตัวเองหรือชื่อธุรกิจตัวเองเลย กับอีกแบบคือ การตั้งชื่อเพจให้สอดคล้องกับสินค้าที่เราขาย ลองดูตัวอย่างกันว่าเป็นประมาณไหน

ตัวอย่างตั้งชื่อแบรนด์หรือธุรกิจของตัวเอง

  • Avocado Apple
  • Stardust
  • โชคอนันต์ อะไหล่ยนต์

ตัวอย่างตั้งชื่อเพจให้สอดคล้องกับสินค้าที่เราขาย

  • เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอล เครื่องชั่งน้ำหนักราคาถูก เครื่องชั่งน้ำหนัก Digital
  • เสื้อทำงาน เสื้อแฟชั่นผู้หญิงสวยๆ เสื้อครอป เสื้อแฟชั่นตามกระแสราคาถูก
  • กล้องวงจรปิด กล้องวงจรปิดราคาถูก กล้องวงจรปิด ….. (ชื่อยี่ห้อ)

ทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนหรือรูปแบบของธุรกิจไว้อย่างไร สำหรับการตั้งชื่อเพจเป็นแบรนด์หรือธุรกิจของตัวเองก็จะได้ของการจดจำของลูกค้า หรือเหมาะกับคนที่มีหน้าร้านออฟไลน์และต้องการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ด้วย

อย่างพวกร้านขายส่งหรือธุรกิจขายส่งเองก็เหมาะมาก เพราะบางครั้งลูกค้าที่บังเอิญผ่านไปหน้าร้านแต่ยังไม่กล้าเข้า ก็มักจะเอาชื่อร้านมาค้นหาบนโลกออนไลน์ก่อน แล้วค่อยมีการไปสั่งซื้อหน้าร้านอีกครั้งหากต้องการก็มี

ในฝั่งของการตั้งชื่อเพจให้สอดคล้องกับสินค้าที่เราขายมันก็มีข้อดีคือ “ช่วยเพิ่มอัตราการค้นหาให้เจอง่าย” สำหรับบน Facebook เองใช่ว่าคนจะค้นหาชื่อเพื่อนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีการค้นหาสินค้าหรือชื่อเพจด้วยเช่นกัน หากเราตั้งชื่อเพจให้สอดคล้องกับการค้นหาก็จะเพิ่มโอกาสในการที่ Facebook จะนำเพจของเราไปแสดงให้ลูกค้าเห็นได้ด้วย

แต่ข้อเสียเลยคือเราจะไม่มีชื่อร้านจริงๆ ให้เป็นภาพจำของลูกค้า หรือถ้าลูกค้าซื้อของคราวหน้าก็อาจจะจำไม่ได้ด้วยว่าซื้อจากไหนหากไม่ได้ย้อนกลับไปดูแชท ลองเลือกทั้งสองวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละคนกันดูนะ

สมมติว่าแอดเลือกได้แล้วตั้งชื่อเพจเป็นสินค้าที่ตัวเองขายเลยละกัน เราก็ใส่รายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน เลือกแท็กให้เหมาะสม อันนี้สำคัญมากเพราะเกี่ยวข้องกับการค้นหาด้วยเช่นกัน ซึ่งเพจ Facebook เองเราก็ทำ SEO ได้ด้วยนะ เพื่อเพิ่มการมองเห็นและให้ลูกค้าค้นหาได้ง่าย ใส่ครบแล้วก็กดสร้างเพจไปได้เลย

ตั้งชื่อเพจ Facebook

ต่อมาเพื่อสร้างเพจเสร็จแล้ว ทาง Facebook เค้าก็จะให้เราใส่รูปโปรไฟล์และรูปภาพหน้าปก หากเรายังไม่ได้ทำรูปหรือเตรียมรูปไว้ก็กดบันทึกไปก่อนก็ได้ค่อยมาใส่ภายหลัง

เพิ่มเติม ใครที่ไม่รู้ว่าจะทำรูปปกหรือรูปโปรไฟล์ขนาดไหนดี ลองดูบทความ ขนาดรูปภาพ Facebook ปี 2022 อัพเดทล่าสุด

รูปปก Facebook

เมื่อเราสร้างเพจเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมไปตั้งค่าเพจส่วนอื่นๆ ให้เรียบร้อย ทั้งรูปโปรไฟล์เพิ่มเว็บไซต์ถ้าเรามี เพิ่มเวลาทำการหรือส่วนอื่นๆ ให้ครบทั้งหมดก็เป็นอันเสร็จสิ้นเรียบร้อยในการสร้างเพจ

ที่สำคัญอย่าลืมเลือกปุ่ม Call To Action ให้เหมาะสมกับบทบาทของเพจเราด้วยนะ เพราะปุ่มนี้ก็มีความสำคัญด้วยเช่นกันต่อการทำการขายและช่วยเพิ่มยอดขายให้ได้แบบคาดไม่ถึงด้วย ที่สำคัญคืออย่าละเลยเด็ดขาดเพราะมันใช้งานได้ “ฟรี”

ปุ่ม Call To Action Facebook

ทำอย่างไรให้ได้คนติดตามเพิ่ม และเพิ่มโอกาสในการขาย

ต้องบอกว่า Facebook ก็เปรียบเหมือนกับเว็บไซต์ที่จะให้คนเข้ามาดูร้านค้าของเราและเราก็ต้องวางแผนกันสักนิดว่าอยากให้คนเห็นอะไรในเพจของเราบ้าง เดียวเรามาเตรียมตัวกันดีกว่าว่าจะเพิ่มคนติดตามกดไลค์เพจของเราและเพิ่มยอดขายได้ด้วยวิธีไหนบ้าง ?

สร้างโพสต์ไว้ในเพจสักตัว

เริ่มต้นเลยเพจของเราก็จะไม่มีอะไรทั้งนั้น เนื่องจากว่าเราเพิ่งสร้างเพจมาใหม่ อันดับแรกให้เราเริ่มต้นจากการสร้างโพสต์ก่อน โดยหากเป็นการขายของก็อาจจะสร้างอัลบั้มของสินค้าเอาไว้ หรือสร้างโพสต์เป็นแนวต้อนรับก็ได้ หรือจะบ่งบอกถึงตัวตนเราก็สามารถทำได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการสื่อออกมาในลักษณะไหน

แต่ส่วนมากหากคุณเป็นคนที่ขายสินค้าตามปกติก็อาจจะสร้างอัลบั้มของสินค้าคุณไว้สักชุด เผื่อไว้สำหรับแชร์ลงกลุ่มหรือแชร์ไปยังที่ต่างๆ จะได้เห็นข้อมูลทีเดียวเลย

Tip&Trick โพสต์ไหนที่คุณต้องการให้อยู่บนสุดแนะนำว่าให้ใช้ฟีเจอร์ Pin Post หรือบางคนอาจจะเรียกว่า “ปักหมุดโพสต์” ได้เลย เพื่อให้คนที่เข้ามาในเพจของเราได้เห็นโพสต์นั้นก่อน

Tip&Trick 2 เลือกใส่ Hashtag ให้เหมาะสม เพราะบางคนก็มีการค้นหาของต่างๆ ผ่าน Hashtag ด้วยเช่นกัน หากคุณเลือกได้อย่างเหมาะสม เดียว Facebook ก็จะดึงโพสต์ของคุณไปแสดงในการค้นหาด้วยเช่นกัน

แชร์คอนเทนต์ประเภทความรู้บ้าง

คอนเทนต์ปกติสำหรับเพจขายของก็มักจะเกี่ยวข้องกับการขายของเพียงอย่างเดียว แต่นั่นก็จะทำให้ดูน่าเบื่อมากเกินไป บางครั้งคุณอาจจะหาเวลาว่างสักนิดและทำคอนเทนต์เกี่ยวกับความรู้ของสินค้าชนิดที่คุณขายดู มันสามารถช่วยเพิ่มความน่าสนใจและเพิ่มการติดตามของผู้ใช้งานมากขึ้นด้วย รวมถึงทำให้เพจดูไม่น่าเบื่อ และบางครั้งสินค้าของคุณอาจจะไปช่วยแก้ปัญหาจนลูกค้าต้องตัดสินใจซื้อจากการทำคอนเทนต์ประเภทความรู้ก็ได้

ทำวิดีโอสักหน่อย เพิ่มยอดวิวได้เยี่ยมเลย

ปัจจุบัน Facebook ได้ปิดกั้นการมองเห็นแบบโหดมากๆ และก็อยู่ในช่วงระหว่างที่สับสนตัวตนดั้งเดิมของตัวเอง โดยตอนนี้ Facebook ได้มีประกาศออกมาแล้วว่าจะมีการผลักดันคอนเทนต์ประเภทวิดีโอให้มากยิ่งขึ้น ทำให้คนที่ทำวิดีโอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมีความได้เปรียบอย่างมาก โดยหากคุณคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้ลองไปดูคลิปใน TikTok ก็ได้ว่าคุณหยุดดูวิดีโอแบบไหน แล้วลองเอามาปรับใช้กับ Facebook ดูก็ได้ วิธีนี้บอกเลยได้ผลดีสุดๆ

เพิ่มเติมสักนิด สำหรับฟีเจอร์ Facebook Reels ที่จะลงไปในเพจได้คุณจำเป็นจะต้องมีการใช้งานสักพักก่อน แล้วจากนั้นฟีเจอร์ดังกล่าวก็จะขึ้นมาให้ในเพจของเรา

สรุป

สำหรับการสร้างเพจ Facebook ก็ไม่ยากเท่าไหร่ แนะนำว่าหากคุณขายสินค้าหลากหลายชนิดให้ทำเพจแยกจะดีกว่า เพราะจะได้มีความชัดเจนและง่ายต่อการค้นหาของลูกค้า หรือถ้าคุณเป็นสายพรีออเดอร์ก็สามารถทำเพจรวมได้เช่นกัน แต่แยกประเภทสินค้าหรือจัดหมวดหมู่ไว้ให้มันหน่อยก็ได้ ที่สำคัญคือ Facebook สามารถทำ SEO เพื่อเพิ่มอัตราการค้นหาของลูกค้าได้ด้วย


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
อัพเดท Facebook Algorithm และข่าวสารประจำปี 2022 ของทุกเดือนครบถ้วน

อัพเดท Facebook Algorithm และข่าวสารประจำปี 2022 ของทุกเดือนครบถ้วน

แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

Social Media ไม่ว่าแพลตฟอร์มไหนๆ ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากันกับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน รวมถึงการอัพเดทฟีเจอร์ต่างๆ เพิ่มขึ้นเข้ามา โดยเฉพาะ Facebook ที่มีการเปลี่ยนแปลง Algorithm บ่อยครั้งพอสมควร เนื่องจากว่าปัจจุบันก็มีแพลตฟอร์มอื่นๆ แย่งผู้ใช้งานไปเยอะแยะมากมาย ทำให้ต้องมีการปรับตัวกันบ้าง ในบทความนี้จะรวบรวมข่าวสารการอัพเดทของเฟสบุ๊ค รวมถึง Facebook Algorithm ให้กับผู้อ่านทุกท่าน เพื่อจะได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสม และสามารถทำคอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

อัพเดทข่าวสารและ Facebook Algorithm มกราคม 2022

ในด้านของการช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วโลกถือว่ามีอัตราที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างบ้านเราที่ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะช้อปปิ้งออนไลน์กันเป็นประจำปกติอยู่แล้ว โดยอาจจะซื้อผ่านแพลตฟอร์มอย่าง E-Commerce เป็นหลัก แต่ด้วยอัตราการซื้อของออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฝั่งของ Social Media ต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น โดยเฉพาะ Facebook เองก็ปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน

สำหรับอัพเดทในเดือนมกราคม 2022 ในฝั่งของ Facebook เองได้มีการอัพเดทด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ช้อปปิ้งของผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น อัพเดทในครั้งนี้ก็เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ เท่านั้น และคนที่ขายของออนไลน์ก็ควรรู้อย่างยิ่งว่าอัพดทครั้งนี้มีอะไรบ้าง

  • มีการให้คำแนะนำ ติชม และเก็บแบบสำรวจของลูกค้าได้ เพื่อนำไปปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้นและยังสามารถรายงานผู้ขายได้ด้วย
  • Facebook Pay ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม มีการใส่ตัวป้องกันตรวจจับการฉ้อโกงทั้งฝั่งธุรกิจและผู้บริโภคเอง และยังเพิ่มให้เราสามารถจ่ายเงินด้วยการสแกนลายนิ้วมือหรือ Face ID ได้
  • อัพเดทระบบตรวจสอบและป้องกันสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์รวมถึงสินค้าเลียนแบบ
  • ผู้ใช้งานสามารถรายงานพฤติกรรมที่ผิดปกติหรือพฤติกรรมที่น่าสงสัยได้
กฎขายของ Facebook

เพิ่มการสมัครสมาชิกของเหล่า Creator

Facebook ได้เปิดให้มีการสมัครเป็นสมาชิกได้ตั้งแต่ปี 2020 ทำให้เหล่าครีเอเตอร์สามารถสร้างเนื้อหาบนแพลตฟอร์มและสร้างรายได้ไปพร้อมๆ กัน โดยคราวนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวมีการอัพเดทเพิ่มเติมดังนี้

– ครีเอเตอร์สามารถสร้างลิงค์สำหรับการสมัครสมาชิกของแต่ละบุคคลเพื่อใช้สำหรับโปรโมตตามช่องทางต่างๆ ได้

อัพเดทข่าวสารและ Facebook Algorithm กุมภาพันธ์ 2022

เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา Facebook ได้เปิดตัว Facebook Reels ทั่วโลกและมีการเริ่มทดสอบการสร้างรายได้ให้กับเหล่า Creator โดย Facebook จะนำโฆษณาลงไปใน Reels เมื่อเวลาผู้ใช้งานเล่นไปวก็จะมีโฆษณาขึ้น และเมื่อมีการกดคลิกหรือกดทำบางอย่างเกี่ยวกับโฆษณาก็จะทำให้เหล่าครีเอเตอร์ได้รับรายได้จากตรงนี้

นอกจากนี้ Facebook ยังได้มีความคิดที่จะใส่การให้ดาวกับเหล่าครีเอเตอร์ด้วย เหมือนกับการที่เราส่งดาวให้กับคนที่ไลฟ์สดนั่นเอง แต่แค่เปลี่ยนไปให้ใน Facebook Reels แทน โดยดาวหนึ่งดวงจะได้รับ 1 เซ็นต์

แน่นอนว่าในอนาคตคนที่เป็นสายยิงแอด Facebook น่าจะมีตำแหน่งการวางโฆษณาใหม่อย่าง “Facebook Reels” ให้เลือกวางได้อย่างแน่นอน แต่แอดคิดว่าน่าจะวางได้เฉพาะแอดที่สร้างด้วยวิดีโอ

รูป Facebook Reels จาก Facebook

อัพเดทข่าวสารและ Facebook Algorithm มีนาคม 2022

ในเดือนนี้มีอัพเดทเข้ามาใหม่น่าสนใจอยู่หลายตัวเหมือนกัน

อัพเดท Meta Advantage Suite ใหม่สำหรับการโฆษณาบน Facebook โดยมีการอัพเดทเพิ่มเติมอยู่ 2 หัวข้อหลักๆ  คือ

  • ในหัวข้อ Advantage ช่วยให้คุณสามารถทำให้แคมเปญต่างๆ ที่คุณเคยตั้งค่าไว้ก่อนหน้านี้เป็นแบบอัตโนมัติได้ เช่น ตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายโดยละเอียด
  • ในหัวข้อ Advantage+ คุณสามารถปล่อยให้ชุดโฆษณาทำงานได้แบบอัตโนมัติแทนคุณทุกอย่าง พูดง่ายๆ คือเหมือนเราไม่ได้เซ็ตอะไรเลยแล้วปล่อยให้ Facebook จัดการให้ทุกอย่าง รวมถึงตำแหน่งในการโฆษณาด้วย

เครื่องมือดังกล่าวได้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำโฆษณาและให้ง่ายสำหรับนักการตลาด รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามแบบของคุณ โดยคุณสมบัติของการทำโฆษณาที่ Facebook ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมก็ได้แก่

  • Advantage Lookalikes และ Advantage Detailed Targeting (ปัจจุบันเรียกว่า Lookalike Expansion และ Detailed Targeting Expansion ) ซึ่งช่วยให้ Meta เข้าถึงผู้คนจำนวนมากขึ้นนอกการตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายเริ่มต้นเพื่อค้นหาผู้ใช้ที่มี Conversion สูง
  • Advantage+ App Campaign (ปัจจุบันเรียกว่าโฆษณาแอปอัตโนมัติ)
  • ตำแหน่ง Advantage+ (ปัจจุบันเรียกว่าตำแหน่งอัตโนมัติ)
  • Advantage+ Creative (ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ Dynamic Experiences)
  • แคมเปญ Advantage+ Shopping (รู้จักกันในชื่อโฆษณา Shopping อัตโนมัติ) กำลังอยู่ในการทดสอบเบต้า

คุณสามารถอ่านการอัพเดทในครั้งนี้เพิ่มเติมได้ที่นี่เลย

เครื่องมือดูแลกลุ่มแบบใหม่บน Facebook

ช่วงนี้ถือว่า Facebook ให้ความสำคัญกับกลุ่มอย่างมาก และเพิ่มการมองเห็นให้กับกลุ่มเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อมีการส่งเสริมแบบนี้แล้วทาง Facebook ก็ได้มีอัพเดทเครื่องมือดูแลกลุ่ม Facebook เพื่อให้เหล่าแอดมินสามารถจัดการกลุ่มได้ง่ายกว่าเดิม หลักๆ Facebook ได้มีการอัพเดทดังนี้

  • สามารถปฏิเสธการโพสต์ลงกลุ่มโดยอัตโนมัติได้สำหรับสมาชิกที่ถูกรายงานว่าอาจจะปล่อยข้อมูลเท็จลงกลุ่ม
  • เพิ่มฟังก์ชั่นการ “ปิดเสียง” และผู้ดูแลกลุ่มสามารถปฏิเสธไม่ให้สมาชิกในกลุ่มเข้าร่วมการแชทกลุ่มได้
  • เพิ่มฟีเจอร์ “ผู้ช่วยดูแลกลุ่ม” โดยเป็นระบบจาก Facebook ที่สามารถตอบรับหรือปฏิเสธการขอเข้าร่วมกลุ่มได้อัตโนมัติหากผู้ขอเข้าร่วมกลุ่มไม่ทำตามกฎที่ผู้ดูแลกลุ่มได้กำหนด เช่น ตอบคำถามก่อนเข้ากลุ่มไม่ครบ เป็นต้น
  • อัพเดทหน้า “แดชบอร์ด” สำหรับผู้ดูแลกลุ่มให้สามารถดูภาพรวมที่เกิดขึ้นในกลุ่มได้ รวมถึงการตรวจสอบการแจ้งเตือนและการดูข้อมูลเชิงลึกต่างๆ
  • เพิ่ม QR Code ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ดูแลดาวน์โหลดและนำไปส่งให้กับบุคคลอื่นๆ เพื่อเชิญเข้ากลุ่มของตัวเองได้
  • ผู้ดูแลกลุ่มสามารถเชิญบุคคลต่างๆ ผ่านทาง E-mail ได้แล้ว
เครื่องมือกลุ่ม Facebook

รูปจาก Facebook

รวมกลุ่มเป้าหมายของสินค้าทุกชนิดไว้ใน E-Book เล่มเดียว ยิงแอดได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น

อัพเดทข่าวสารและ Facebook Algorithm เมษายน 2022

เดือนนี้ถือว่ามีการอัพเดทของทาง Facebook น้อยมากๆ แทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย แต่แอดคิดว่าในเดือนพฤษภาคมน่าจะมีอัพเดทใหม่ๆ เยอะขึ้นอย่างแน่นอน รวมถึง Facebook Algorithm ด้วยที่น่าจะเข้ามา เพราะ Facebook ได้ห่างหายจากการอัพเดทไปสักพักใหญ่ๆ แล้ว รวมถึงคู่แข่งอย่าง TikTok เองก็มีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วย เดียวมาดูกันดีกกว่าว่าครั้งนี้ Facebook มีอัพเดทอะไรบ้าง

Brand Safety Controls

ในการอัพเดทครั้งนี้จะเน้นหนักไปในฝั่งของแบรนด์เป็นหลัก เพื่อไม่ให้การทำโฆษณาของเหล่าแบรนด์ไปแสดงผลไปในที่แปลกๆ อย่างเช่นในโฆษณาการพนัน โฆษณาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ หรือไปแสดงผลในรูปภาพ วิดีโอที่อาจจะเป็นรูปโป๊ะเปลือยไม่เหมาะสม โดยบางครั้งอาจจะหลุดรอดจากการตรวจสอบของระบบ Facebook ได้

โดยการอัพเดทของ Facebook ในเรื่อง Brand Safety Controls นั้นก็เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ หากโฆษณาที่ได้ทำไปและไปแสดงผลในที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ก็อาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้แบบร้ายแรงเลย และเรื่องนี้หลายธุรกิจและหลายแบรนด์ก็เริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างนี้แอดคิดว่าทางฝั่งของ Facebook เองก็น่าจะอยู่ในช่วงของการให้ AI ได้เรียนรู้อยู่

Brand Safety Controls

ตั้งค่า Brand Safety Controls รูปจาก Social Media Exam

อัพเดทข่าวสารและ Facebook Algorithm พฤษภาคม 2022

ในที่สุดเราก็เกือบเดินทางกันมาถึงครึ่งปีแล้ว หลายธุรกิจก็เริ่มน่าจะเห็นอะไรบางอย่างจากการดำเนินงานผ่านทาง Facebook มาบ้างไม่มากก็น้อย และในเดือนนี้เองก็ถือว่ามีการปรับปรุงครั้งสำคัญของ Facebook ด้วยเช่นกัน ทั้งการปรับ Facebook Algorithm ใหม่ เพื่อให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม และอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีก เดียวมาดูกันว่าเดือนนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้มีรายงานเกิดขึ้นว่า Facebook มีรายได้ที่ลดลงตั้งแต่เปิด IPO มา โดยปกติแล้วจะมีกำไรเป็น % ขึ้นสองหลักตลอด แต่จากการรายงานผลประกอบการพบว่ามียอดรายได้ที่ลดลงเหลือเพียงแค่ 7% นอกจากนี้ยังมีประเด็นในเรื่องของการที่ Mark เค้าได้ทุ่มเทเม็ดเงินเป็นจำนวนมหาศาลไปปกับการวิจัยพัฒนา Metaverse และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้จากการเปิดเผยรายได้พบว่า Reality Labs เฉพาะไตรมาสที่ 1 ก็ขาดทุนไปกว่า 2.96 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ และปีที่แล้วขาดทุนไป 1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐกันเลยทีเดียว แอดคิดว่าเรื่องนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างเห็นได้ชัด

Horizon World Meta

ในคราวนี้ Facebook เค้าได้มีการปรับลดการมองเห็นของเฟสบุ๊คแบบส่วนบุคคล กล่าวคือลดการมองเห็นของเพื่อน และเพิ่มการมองเห็นให้กับเพจต่างๆ รวมถึงคอนเทนต์โดยตรงของ Meta รวมถึงข่าวการอัพเดท VR ต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าการอัพเดทครั้งนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่ามีผลกระทบทั้งด้านดีและด้านเสียของผู้ใช้งานแต่ละแบบอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้คาดว่าตัว Algorithm อยู่ในระหว่างการเรียนรู้ผู้ใช้งานอยู่

สำหรับข้อดีของฝั่งเพจก็คือจะช่วยเพิ่มการมองเห็นให้มากยิ่งขึ้นกว่าเก่า และมีโอกาสในการที่ผู้ใช้งานจะมองเห็นคอนเทนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายหรือแม้กระทั่งโพสต์แบบธรรมดามากยิ่งขึ้น ช่วงนี้คือช่วงกอบโกยของแบรนด์รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กต่างๆ กันเลยทีเดียว แอดคิดว่าตอนนี้น่าจะถึงเวลาของธุรกิจและเป็นโอกาสอันดีที่จะเริ่มวางแผนการทำการตลาดผ่าน Facebook มากยิ่งขึ้น

อัพเดทข่าวสารและ Facebook Algorithm มิถุนายน 2022

ในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการอัพเดท Facebook Algorithm เช่นเดิม ส่วนเนื้อหาอื่นๆ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมเข้ามามากนัก ซึ่งคราวนี้ถือว่าแนวทางของ Facebook ในมุมมองแอดคิดว่าหลงทางสุดๆ โดย Algorithm ครั้งนี้จะเป็นอะไรเดียวมาอ่านกันเลย

ช่วงนี้ต้องบอกเลยว่า Facebook ได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของรายได้ที่ลดลงอย่างมาก ทำให้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในมือของตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Facebook ที่ปรับถี่สุดๆ เท่าที่แอดจำได้เหมือนเพิ่งทำสรุปอัพเดทไปได้ไม่นานก็มีอัพเดทใหม่จากทาง Facebook เข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งกับคนที่ทำเพจขายสินค้าหรือเพจสำหรับธุรกิจของตัวเอง และเป็นการประกาศอีกทางว่าพร้อมที่จะสู้กับ TikTok เจ้าแห่ง Short Video Content ที่ถูกสร้างโดย Bytedance จากจีนแล้ว

จากอัพเดทล่าสุดเมื่อครั้งที่แล้วของ Facebook ได้มีการปรับการมองเห็นใหม่ครั้งใหญ่ไปแล้วอีกรอบหนึ่งก็คือ เพิ่มการมองเห็นให้กับเพจและลดการมองเห็นหน้าส่วนตัวลง เพื่อผลักดันเพจธุรกิจให้ถูกมองเห็นได้มากยิ่งขึ้น แต่ต่อมาปรับไปได้ไม่นานก็เข้าสู่การอัพเดทครั้งนี้อีกรอบคือ ลดการมองเห็นของเพจลงไปอีกพอสมควร แต่ไปเพิ่มการมองเห็นให้กับ Reels แบบเต็มที่

สัญญาณในการอัพเดทครั้งนี้ก็พอเดาได้เลยว่า TikTok น่าจะขึ้นมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญเทียบเท่ากับเจ้าอื่นๆ แล้ว และ Facebook ก็ไม่อาจจะปล่อยให้ผู้ใช้งานถูกแย่งไปได้ง่ายๆ ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง และสิ่งที่จะสู้ได้นั้นก็คือ “Reels” นั่นเอง โดยตัวนี้จะมีลักษณะการใช้งานคล้ายกับ TikTok อย่างมาก เป็นแหล่งที่รวบรวมวิดีโอสั้นๆ และแบ่งปันให้กับผู้ใช้งานคนอื่นๆ  ได้รับชม โดยวิดีโอยิ่งได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ โอกาสในการเข้าถึงก็มากขึ้นเท่านั้น เรียกได้ว่าทั้งบน Facebook และ Instagram ตอนนี้เหล่า Reels ถือว่าเป็นขุมทรัพย์สำคัญของแบรนด์และเหล่าคนค้าขายเลยทีเดียว


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
เพิ่มอัตราการมองเห็นให้เพจ Facebook แบบก้าวกระโดดด้วย “Reels”

เพิ่มอัตราการมองเห็นให้เพจ Facebook แบบก้าวกระโดดด้วย “Reels”

แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

ช่วงนี้ต้องบอกเลยว่า Facebook ได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของรายได้ที่ลดลงอย่างมาก ทำให้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในมือของตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Facebook ที่ปรับถี่สุดๆ เท่าที่แอดจำได้เหมือนเพิ่งทำสรุปอัพเดทไปได้ไม่นานก็มีอัพเดทใหม่จากทาง Facebook เข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งกับคนที่ทำเพจขายสินค้าหรือเพจสำหรับธุรกิจของตัวเอง และเป็นการประกาศอีกทางว่าพร้อมที่จะสู้กับ TikTok เจ้าแห่ง Short Video Content ที่ถูกสร้างโดย Bytedance จากจีนแล้ว

เพิ่มอัตราการมองเห็นให้เพจ Facebook แบบก้าวกระโดดด้วย “Reels” (กดเลือกอ่านได้)

เทรนด์ Social Media ปัจจุบัน

ต้องบอกว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของวิดีโอกันเลยทีเดียว เพราะจากผลสำรวจของ Hootsuit ผู้ให้บริการด้านการจัดการเกี่ยวกับ Social Media และคอยแชร์ข้อมูลต่างๆ ให้กับเหล่า Marketer ทั่วโลกได้มีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่รับชมวิดีโอ โดยหากเปรียบเทียบกับหลายๆ ปีพบว่าอัตราการเติบโตในแง่ของการรับชมวิดีโอเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ปกติแล้วหากเราพูดถึงวิดีโอสั้นๆ ความยาวไม่เกิน 10 นาทีแล้ว เราก็มักจะคิดกันว่า TikTok นี่แหละที่กลายเป็นเจ้าตลาดอันดับ 1 เรียบร้อย แต่จากผลสำรวจของ Hootsuit พบว่าอันดับหนึ่งกลับกลายเป็น YouTube รองลงมาก็คือ Facebook และอันดับ 3 คือ TikTok ซะงั้น ผิดคาดสุดๆ แอดเห็นข้อมูลเองครั้งแรกก็แปลกใจเหมือนกัน

ข้อมูลของ Social Media

ข้อมูลจาก Hootsuit

จากอัพเดทล่าสุดเมื่อครั้งที่แล้วของ Facebook ได้มีการปรับการมองเห็นใหม่ครั้งใหญ่ไปแล้วอีกรอบหนึ่งก็คือ เพิ่มการมองเห็นให้กับเพจและลดการมองเห็นหน้าส่วนตัวลง เพื่อผลักดันเพจธุรกิจให้ถูกมองเห็นได้มากยิ่งขึ้น แต่ต่อมาปรับไปได้ไม่นานก็เข้าสู่การอัพเดทครั้งนี้อีกรอบคือ ลดการมองเห็นของเพจลงไปอีกพอสมควร แต่ไปเพิ่มการมองเห็นให้กับ Reels แบบเต็มที่

สัญญาณในการอัพเดทครั้งนี้ก็พอเดาได้เลยว่า TikTok น่าจะขึ้นมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญเทียบเท่ากับเจ้าอื่นๆ แล้ว และ Facebook ก็ไม่อาจจะปล่อยให้ผู้ใช้งานถูกแย่งไปได้ง่ายๆ ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง และสิ่งที่จะสู้ได้นั้นก็คือ “Reels” นั่นเอง โดยตัวนี้จะมีลักษณะการใช้งานคล้ายกับ TikTok อย่างมาก เป็นแหล่งที่รวบรวมวิดีโอสั้นๆ และแบ่งปันให้กับผู้ใช้งานคนอื่นๆ  ได้รับชม โดยวิดีโอยิ่งได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ โอกาสในการเข้าถึงก็มากขึ้นเท่านั้น เรียกได้ว่าทั้งบน Facebook และ Instagram ตอนนี้เหล่า Reels ถือว่าเป็นขุมทรัพย์สำคัญของแบรนด์และเหล่าคนค้าขายเลยทีเดียว

Facebook Reels

หน้าตาของ Facebook Reels

ประหยัดต้นทุนในการทำโฆษณาลง 30% และค้นหากลุ่มเป้าหมายให้กับธุรกิจได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย InterestPRO

ทำไมต้องใช้ Facebook Reels

จากการทดสอบของหลายๆ คนพบว่าในเพจ Facebook ปัจจุบันมีอัตราการเข้าถึงที่ลดลงอย่างมาก แทบจะเหมือนกับก่อนหน้านี้ก็คือมองแทบไม่เห็น แต่สำหรับในฝั่ง Reels เองก็ได้รับการเข้าถึงมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะลงวิดีโอไปแบบไม่ได้ตั้งใจทำและดูไม่น่าดึงดูดก็ตาม เพราะเป็นการทดสอบว่าตัว Algorithm ล่าสุดที่ Facebook ได้อัพเดทนั้นมันทำงานหรือยัง จะได้ปรับตัวถูก

ในการทำวิดีโอ Reels บน Facebook เพจนั้นก็ไม่ยาก หากทำผ่านโทรศัพท์มือถือในหน้าที่เราจะโพสต์อะไรลงเพจก็จะมีปุ่ม Reels อยู่ตรงนั้นด้วย หากเราต้องการอัพโหลดวิดีโออะไรขึ้นไปก็สามารถกดอัพจากตรงนั้นได้เลย แล้ว Facebook ก็จะนำไปแสดงในที่ต่างๆ ให้กับเรา หากนึกไม่ออกว่าอยู่ตรงไหนดูจากรูปด้านล่างเลย

สร้างคลิป Reels หรืออัพโหลดทำผ่านเพจ Facebook ได้เลย

ในตอนนี้จากการอัพเดทอีกครั้ง สิ่งที่เราไม่ควรพลาดเลยนั้นก็คือ Reels ที่เราควรจะไปลงวิดีโอเพื่อให้เกิดการเข้าถึงให้ได้มากยิ่งขึ้น และเป็นอีกตำแหน่งที่มีความสำคัญและคุณไม่ควรที่จะพลาดอย่างยิ่ง ในส่วนของการทำวิดีโอนั้นหากใครกำลังหาแนวทางก็อาจจะไปส่องสไตล์การทำวิดีโอบน TikTok ได้ เพราะส่วนใหญ่เวลามีโฆษณาเกิดขึ้นบน TikTok หากไม่สังเกตให้ดีหลายคนก็รับชมวิดีโอนั้นแบบไม่รู้ตัว และเพื่อไม่ให้ผู้ชมเลื่อนหนีจำเป็นจะต้องทำคอนเทนต์วิดีโอที่เนียนกลมกลืนไปกับวิดีโอทั่วไปอย่างยิ่ง

สิ่งที่ได้รับความนิยมบนวิดีโอสั้นๆ ก็จะเป็นพวกคลิปบันเทิงสั้นทั่วไป การโชว์สกิล การโชว์ขีดความสามารถของสินค้า แสดงให้เห็นถึงจุดเด่นและการใช้งานของสินค้า การนำเสนอนั้นจะต้องไม่ดูให้เป็นการขายมากเกินไป เพราะหากเป็นการขายแบบจ๋าๆ แล้วมันก็ยากที่จะทำให้ผู้ชมรับชมวิดีโอของเรา

สรุป

ยังไงก็ตามนี่ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่เคยทำวิดีโอใดๆ เลย แอดคิดว่าหากคุณจะเริ่มทำวิดีโอลง Reels อาจจะต้องไปดูสไตล์การทำวิดีโอจาก TikTok หรือถ้าคุณเป็นคนขายสินค้าอาจจะไปดูคอนเทนต์ที่เค้าทำรีวิว มันช่วยเป็นไอเดียและช่วยให้เรามีแนวทางที่ดียิ่งขึ้น และอย่าลืมว่าตอนนี้ Facebook ให้ความสำคัญกับ Reels แบบสุดๆ ลองไปทำวิดีโอแล้วลงเพื่อดูผลลัพธ์กันด้วยนะ


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping