ทุกวันนี้ขายของบนโลกออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่อยยากเหมือนกับสมัยก่อนที่ยังไม่ได้มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหรือหาแหล่งการขายสินค้า...

แบรนด์สินค้าทำยาก มาลองปั้น Personal Branding กันดู
การทำ Branding เป็นสิ่งที่มักจะมองกันว่ายากอย่างมาก และก็มักจะเบือนหน้าหนีหากคิดจะทำ โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจหรือแม้กระทั่งขายของออนไลน์ การทำ Branding ให้กับตัวสินค้าคงเป็นเรื่องยากอย่างมาก เพราะไม่ได้มีทุนมากมายเหมือนกับเจ้าใหญ่ๆ คนดังต่างๆ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง Personal Branding ที่เป็นการสร้างแบรนด์แบบลักษณะบุคคล หากในที่นี้ก็คือภาพลักษณ์ของธุรกิจหรือผู้ขายนั่นเอง ที่แม้คุณจะมีงบน้อยก็สามารถเอาไปใช้สร้างจุดแข็งให้กับตัวเองและต่อยอดไปทำ Branding สินค้าในอนาคตได้
มาลองปั้น Personal Branding กันดู (กดเลือกอ่านได้)
Personal Branding คืออะไร ?
Personal Branding คือ การสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวบุคคลและผู้อื่นก็ได้รับรู้ถึงภาพลักษณ์ที่เราได้นำเสนอออกไป โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตัวบุคคลเท่านั้น แต่สามารถหมายถึงธุรกิจหรือร้านค้าได้ด้วยเช่นกัน และสำหรับการที่ใครสร้าง Personal Branding ได้ดีและเด่นชัดมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ผู้คนจดจำเราได้ดีมากเท่านั้น และยังได้ประโยชน์อื่นๆ ตามมาอีกมากมายสำหรับการต่อยอดในการทำธุรกิจ ทำการขายได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเพราะลูกค้าได้เห็นภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของเราแล้ว
ยกตัวอย่างคุณพิมรี่พายที่ทุกคนจดจำว่าเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ที่ขายทุกอย่างและเป็นคนที่ชอบบริจาคอีกด้วย
ความแตกต่างระหว่าง Personal Branding กับ Branding สินค้า
สำหรับตัว Personal Branding ก็เป็นแบรนด์ที่สร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวบุคคล ธุรกิจ หรือแม้กระทั่งการค้าขายก็ทำ Personal Branding ได้
ยกตัวอย่าง Personal Branding แอดขอยกเป็น “คุณตัน” เวลาเราเห็นคุณตันไปไหนก็ตาม แน่นอนว่าเราต้องเห็น “หมวกกัปตันสีขาว” ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์โดดเด่นประจำตัว และถึงแม้จะเซ็นเซอร์หน้าไว้แต่ถ้าได้เห็นหมวกปุ๊บก็รู้ทันทีเลยว่าเป็นคุณตัน ตรงนี้แหละคือ Personal Branding
คุณตันกับหมวกใบเก่งสีขาว
ส่วน Branding สินค้าก็คือ ตราสัญลักษณ์ประจำผลิตภัณฑ์ เพื่อทำให้ลูกค้าจดจำได้ผ่านการทำการตลาด การสร้างชื่อเสียง การโปรโมท ซึ่งการทำ Branding ให้กับตัวสินค้าจะช่วยทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย และมีความแตกต่างจากคู่แข่ง
ประโยชน์ของ Personal Branding
1. มีความแตกต่างจากคู่แข่ง
ทำให้ลูกค้ารู้จักเราได้ง่าย และมีความแข็งแกร่งในการแข่งขันตามแต่ละอุตสาหกรรมที่เราทำอยู่ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คุณพิมรี่พาย Personal Branding ที่เราเห็นได้ชัดเลยคือ ไลฟ์ขายของทุกอย่าง กล้าพูด ใจบุญชอบช่วยเหลือคน ทำให้เราจดจำได้ง่าย
2. สามารถสร้างการจดจำให้กับลูกค้าได้
การที่เราทำ Personal Branding ได้ดี แสดงถึงความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ หรือแสดงจุดเด่นออกมาได้มากเท่าไหร่ คนก็จะยิ่งจดจำเราง่ายมากขึ้นเท่านั้น การที่เราสร้างมันออกมาได้ดีจะช่วยให้ลูกค้านึกถึงเราเป็นอันดับแรกๆ และพร้อมที่จะซื้อสินค้ารวมถึงบริการกับเราด้วย
3. ช่วยเพิ่มมูลค่าทั้งตัวสินค้าและตัวคุณเอง
หากคุณทำ Personal Branding และแสดงมันออกมาได้อย่างเด่นชัดแล้ว โอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือบริการและนึกถึงคุณเป็นอันดับแรกย่อมมีมากขึ้นแน่นอน เพราะการมี Personal Branding ก็เหมือนกับเป็นป้ายยี่ห้อ ถ้าตัวเราหรือธุรกิจแสดงออกมาแบบไหน ลูกค้าก็จะจดจำแบบนั้น และถ้ามันใช่กับกลุ่มเป้าหมายแน่นอนว่าการซื้อหรือใช้บริการกับเราคงไม่ยากแน่ๆ
นอกจากนี้การที่เราทำ Personal Branding มันจะทำให้เรามีความแข็งแกร่งกว่าคนที่ไม่มี Brand และไม่มี Branding ใดๆ ทั้งสิ้น พูดง่ายๆ ว่าถ้าคุณเป็นคนขายของ คุณก็สามารถอัพราคาขายได้มากกว่าคนที่ไม่มีตรงจุดนี้นั่นเอง
5 วิธีทำ Personal Branding ที่คุณเองก็ทำได้
การทำ Personal Branding จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะมันต้องทุ่มเททั้งเวลา ทรัพยากรต่างๆ การทำคอนเทนต์ และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะด้านเวลาที่กว่าเราจะสร้างการจดจำให้กับลูกค้าได้มันไม่ใช่ง่ายเลย ยกเว้นถ้าคุณทำอะไรแล้วมันเป็น “ไวรัล” ได้ก็จะเป็นทางลัดชั้นดีเลย งั้นเรามาดูขั้นตอนการทำ Personal Branding กันดีกว่าว่าถ้าเราอยากสร้างภาพจำให้กับแบรนด์หรือตัวเราเอง ควรทำแบบไหนดี ?
1. สร้างตัวตนผ่านคอนเทนต์
สมัยนี้เราเริ่มอยู่ในโลกออนไลน์กันเป็นหลัก และสามารถเข้าถึงผู้คนได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นหากเปรียบเทียบกับสมัยก่อน ซึ่งการทำคอนเทนต์นั้นจะทำให้ลูกค้าเราทราบได้ว่า
เราเป็นใคร ?
ทำอะไร ?
ต้องการสื่อสารอะไร ?
นอกจากคอนเทนต์ที่เราต้องทำแล้ว กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเราก็ต้องชัดเจน เพราะแต่ละธุรกิจหรือสินค้าที่ถูกสร้างมา มันย่อมมีความต้องการ มีกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว ยิ่งเราเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีมากเท่าไหร่ โอกาสในการทำคอนเทนต์ได้ตรงใจและได้รับ Feedback ที่ดีกลับมาก็มากขึ้นเท่านั้น อันนี้ก็ต้องดูกันแล้วว่าในธุรกิจหรือสินค้าที่คุณทำอยู่กลุ่มเป้าหมายเป็นใครกันแน่ และลองทำคอนเทนต์สื่อสารกับพวกเขาเหล่านั้นดู
2. สร้างภาพจำด้วย Logo หรือ CI ประจำตัว
การที่เรามี Logo หรือ CI ประจำตัวที่ดีมันจะช่วยเพิ่มการจดจำให้กับกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนทีนี้ก็มีคนจำเราได้ เนื่องจากว่าการทำ Personal Branding มันก็ต้องมีเรื่องของ Mood & Tone รวมถึงการมีสีประจำตัว สีประจำธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง มันจะช่วยให้ลูกค้าจำเราได้ง่ายและสร้างความแตกต่างกับคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาดได้อีกด้วย
3. วางกลยุทธ์ในการสื่อสาร
ในเรื่องกลยุทธ์การสื่อสารก็สำคัญ ถึงแม้คุณจะทำคอนเทนต์ออกมาได้ดีมากแค่ไหนแต่ถ้าไม่วางแผนให้ดีสุดท้ายก็ไม่มีใครเห็น และไม่มีใครที่จะจำเราได้ทั้งนั้น การวางกลยุทธ์การสื่อสารก็อาจจะต้องเลือกช่องทางที่คาดว่ากลุ่มเป้าหมายเราอยู่ โดยสมัยนี้อาจจะเป็น Facebook, eCommerce หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์ก็ได้เช่นกัน โดยการสื่อสารเราสามารถทำได้หลายวิธีเช่น ทำเป็นวิดีโอคลิปสั้นๆ การจ้าง Influencer หรือการออกให้สัมภาษณ์ในมุมของผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ตรงจุดนี้ต้องเลือกให้ดีว่าเราเน้นอะไรเป็นสำคัญ
4. การแก้ไขปัญหาด้วยสินค้าหรือบริการ
“การขยี้ปัญหา” คำๆ นี้เราได้ยินกันบ่อยครั้ง ยิ่งใครศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการตลาดและการขายแล้วก็ต้องเจอคำนี้อย่างแน่นอน ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบเจอในกลุ่มของคนทำธุรกิจหรือขายของออนไลน์มักจะพบว่า “ตัวเองไม่เข้าใจสินค้า” เพราะถ้าคุณเข้าใจสินค้านั้น การขยี้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้าจะไม่ยากอย่างที่คุณคิด และหากคุณขยี้ได้ตรงจุดมากพอมันจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดด รวมถึงหากเกิดปัญหาขึ้นกับลูกค้าอีกครั้ง สิ่งที่เค้าจะนึกถึงคนแรกก็คือ “คุณ” ดังนั้นแล้วเนี่ยให้พยายามสร้างการจดจำให้กับลูกค้าด้วยการแก้ไขปัญหาที่เค้าเจอให้ได้มากที่สุด
5. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้วย
การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีมันจะช่วยให้ลูกค้าที่เข้ามาหาคุณได้จดจำ ไม่ว่าจะเป็นการบริการที่ดี การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้า การช่วยเหลือลูกค้า สิ่งเหล่านี้มันก็รวมอยู่ใน Personal Branding ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับคนที่ขายของออนไลน์งบน้อยไม่สามารถสร้าง Branding อะไรได้มากมาย อาจจะเริ่มต้นจากสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและเกิดความไว้วางใจกับเรา และมันจะช่วยให้เราสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีความจงรักภักดีกับร้านค้าของเราได้ไม่ยาก ดังนั้นสิ่งเหล่านี้เราสามารถเริ่มทำ และปลูกฝังมันให้อยู่ในตัวเราได้เลยเป็นอันดับแรกๆ
สรุป
การสร้าง Personal Branding มันเป็นอาวุธอีกชิ้นที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับแต่ละอุตสาหกรรมที่คุณอยู่ ยิ่งคุณสร้างความแตกต่างได้มากเท่าไหร่ มันก็จะช่วยให้คุณทำธุรกิจได้ง่ายมากเท่านั้น รวมถึงมันยังเพิ่มอัตราการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยจะเป็นธุรกิจเล็กหรือธุรกิจใหญ่ก็ล้วนให้ความสำคัญกับการสร้าง Brand หรือ Personal Branding กันทั้งนั้น เพราะมันมีความสำคัญอย่างมากต่อการทำธุรกิจในปัจจุบัน ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณมีความคิดที่อยากจะทำ Personal Branding บ้างแล้วรึยัง ?