ขายของใน TikTok Shop ต้องเสียค่าอะไรบ้าง ?

ขายของใน TikTok Shop ต้องเสียค่าอะไรบ้าง ?

แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

TikTok Shop ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รวมถึงนักช้อปอีกด้วย จากการสนับสนุนของ TikTok เองที่จัดหนักจัดเต็ม รวมถึงจำนวนการใช้งานของผู้คนก็เยอะแยะมากมาย ทำให้มีความคึกคักไม่แพ้กับช่องทางอื่นๆ และหลายคนก็กำลังพิจารณาช่องทางอย่าง TikTok Shop อยู่ว่าเข้าไปแล้วจะต้องทำยังไงบ้าง รวมถึงถ้าวางขายสินค้าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายบน TikTok Shop ยังไง

เรื่องค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อขนาดเล็ก

ค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อขนาดเล็กเป็นเงื่อนไขของทาง TikTok Shop ที่จะทำการเก็บจากผู้ซื้อเมื่อมูลค่าไม่ถึง 150 บาท ตามที่ได้กำหนดเอาไว้  โดยเงื่อนไขก็คือ

เมื่อ ยอดรวมคำสั่งซื้อมากกว่า 150 บาท จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อขนาดเล็ก

เมื่อ ยอดรวมคำสั่งซื้อต่ำกว่า 150 บาท จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อขนาดเล็กดังต่อไปนี้

– ​ค่าคำสั่งซื้อขนาดเล็ก = 150 บาท – (ยอดรวมสินค้าก่อนหักส่วนลด – ส่วนลดจากผู้ขายส่วนลดจาก TikTok Shop)

​- ในกรณีที่เป็นคําสั่งซื้อแรกของผู้ซื้อจะไม่มีการเรียกเก็บค่าคําสั่งซื้อขนาดเล็ก

แอดจะยกตัวอย่างเรื่องค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อขนาดเล็กให้ว่าคิดอย่างไร

*** ในวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ทาง TikTok Shop จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากเดิม 3% เป็น 4% และค่าธรรมเนียมขั้นต่ำจากเดิม 5 บาทเป็น 12 บาท เดียวแอดจะเขียนวิธีคิดให้ใหม่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ค่าใช้จ่าย TikTok Shop

จากตารางรูปด้านบน ทาง TikTok Shop จะเรียกเก็บค่า “คำสั่งซื้อขนาดเล็ก” จากผู้ซื้อ เนื่องจากว่าไม่ถึงขั้นต่ำที่กำหนดคือ 150 บาท โดยจะได้สูตรดังนี้

  • ยอดรวมของผู้ซื้อ – (ยอดรวมของสินค้าก่อนหักส่วนลด – ส่วนลดจากผู้ขาย – ส่วนลดจาก TikTok Shop) = ค่าคำสั่งซื้อขนาดเล็ก
  • ให้นำ 150 – (70 – 5 – 3) = 88 บาท ในส่วนของร้านค้าที่จะได้รับเงินนั้นก็เอา “ยอดรวมสินค้าก่อนส่วนลด – ส่วนลดจากผู้ขาย – ส่วนลดจาก TikTok Shop x ค่าธรรมเนียมการขาย = รายรับของผู้ขาย
  • ก็จะได้ 70 – 5 – 3 (ค่าธรรมเนียมที่คิดเป็น 5 บาท เพราะขั้นต่ำกำหนดไว้ที่เท่านั้น ความจริงคือได้แค่ 1.8 เท่านั้น จึงปัดเป็น 5 นั่นเอง)
  • สรุปร้านค้าจะได้รับเงินจากออเดอร์นี้ 60 บาท

เงื่อนไขค่าธรรมเนียมการขาย เพื่อนๆ ดูข้อถัดไปได้เลย

เงื่อนไขเรื่องค่าธรรมเนียมของ TikTok Shop

หลังจากที่ได้เปิดตัวสักระยะหนึ่งแล้วจากเดิมที่ TikTok Shop ก็ไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียม แต่ปัจจุบันก็ได้ปรับเปลี่ยนมาเก็บค่าธรรมเนียม 3% แล้ว รวมถึงยังมีเรื่องคำสั่งซื้อขนาดเล็กเพิ่มเติมเข้ามาอีก ทำให้หลายๆ ร้านจำเป็นต้องมีการปรับตัว รวมถึงคิดค่าใช้จ่ายต่างๆ ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้คุ้มกับการขายของบนแพลตฟอร์มมากที่สุด

อีกเรื่องที่สำคัญคือในการเก็บค่าธรรมเนียมของ TikTok จะมีด้วยกัน 2 แบบคือ

3% ของยอดรวมคำสั่งซื้อ* หรือ ขั้นต่ำ 5 บาทต่อคำสั่งซื้อ

อธิบายง่ายๆ คือ หากคิดค่าธรรมเนียม 3% ที่กำหนดมาแล้วและมีเกิน 5 บาท ทาง TikTok Shop จะคิดค่าธรรมเนียมตามจริง แต่ถ้าหากคิดแล้วต่ำกว่า 5 บาท เช่น ได้ 2 บาท, 1 บาท, 1.5 บาท ทาง TikTok Shop จะทำการเก็บ 5 บาททันที ก็เป็นไปตามเงื่อนไขของทางเค้าที่ขั้นต่ำกำหนดไว้ 5 บาทนั่นเอง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ คือ

ตัวอย่างที่ 1

ขายของบน TikTok ต้องจ่ายอะไรบ้าง

 จากรูปด้านบน

(ราคาสินค้าก่อนหักส่วนลด – ส่วนลดจากผู้ขาย – ส่วนลดจาก TikTok Shop) x ค่าธรรมเนียม 3% จากการขาย

(4,500 – 150 – 500) x 3% = 115.5 บาท ค่าธรรมเนียมตัวนี้เกินขั้นต่ำ 5 บาทตามที่ TikTok Shop กำหนดดังนั้นทางเค้าก็จะเก็บค่าธรรมเนียมเราตามจริง ทำให้รายรับของเราจะเหลือ 4,234.50 บาทนั่นเอง

ตัวอย่างที่ 2

ขายบน TikTok Shop เสียอะไรบ้าง

 จากรูปด้านบน

(ราคาสินค้าก่อนหักส่วนลด – ส่วนลดจากผู้ขาย – ส่วนลดจาก TikTok Shop) x ค่าธรรมเนียม 3% จากการขาย

(50 – 2) x 3% = 1.44 บาท ค่าธรรมเนียมตัวนี้ยังต่ำกว่าที่ TikTok กำหนดคือ 5 บาท ดังนั้นทางเค้าก็จะเก็บค่าธรรมเนียมเราไป 5 บาท ทำให้รายรับของเราจะเหลือ 43 บาทนั่นเอง

*** เรื่องคำสั่งซื้อขนาดเล็ก 105 บาท ทาง TikTok Shop จะเป็นคนเรียกเก็บกับลูกค้าเองเนื่องจากว่าลูกค้าสั่งของเข้ามาไม่ถึงขั้นต่ำ 150 บาทตามที่ TikTok Shop ได้กำหนด

ตัวอย่างที่ 3

วิธีคิดค่าธรรมเนียม TikTok

จากรูปด้านบน

(ราคาสินค้าก่อนหักส่วนลด – ส่วนลดจากผู้ขาย – ส่วนลดจาก TikTok Shop) x ค่าธรรมเนียม 3% จากการขาย

(190 – 5 – 20) x 3% = 4.95 บาท ค่าธรรมเนียมตัวนี้ยังต่ำกว่าที่ TikTok กำหนดคือ 5 บาท ดังนั้นทางเค้าก็จะเก็บค่าธรรมเนียมเราไป 5 บาท ทำให้รายรับของเราจะเหลือ 180 บาทนั่นเอง

ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมจะมีอะไรบ้าง ?

ส่วนลดต่างๆ ที่ร้านเป็นคนทำ

ส่วนลดร้านค้า TikTok

ในเรื่องของโปรโมชั่นต่างๆ ที่เราเป็นคนสร้างขึ้นมาเราก็จำเป็นจะต้องจ่ายในส่วนนี้เมื่อลูกค้ามีการกดใช้งานเข้ามา พูดง่ายๆ คือ ถ้าเราสร้างคูปองส่วนลด 10 บาทเอาไว้ และเมื่อลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า จากนั้นกดใช้คูปอง 10 บาทที่เราสร้าง เราก็จำเป็นจะต้องจ่ายส่วนต่างตรงนั้นเพื่อเป็นส่วนลดให้กับลูกค้าไป อันนี้เพื่อนๆ ต้องวางแผนการใช้งานคูปองให้ดี เพราะบางทีมันอาจจะเข้าเนื้อเราได้หากเราสร้างแบบไม่ได้คิด

บทความแนะนำสำหรับคนที่ทำ TikTok

ค่าโปรโมทต่างๆ หรือค่า Affiliate Link

ในการโปรโมทนี้ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องจ่าย เพียงแต่ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหากคุณอยากมียอดขายเพิ่มขึ้นก็จำเป็นต้องจ่ายเพื่อทำโฆษณา โปรโมทช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้หรือให้กลุ่มเป้าหมายของเราเห็นโฆษณาและเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น

สำหรับเครื่องมือโปรโมทที่ได้ผลที่สุดและหลายคนเลือกจะใช้ก็คือ “Affiliate” ปกติแล้วเวลาเราต้องการทำโฆษณาสักตัว เราอาจจะไปจ้าง Influencer ให้ช่วยรีวิวให้ และจ่ายค่าจ้างเป็นรอบๆ ไป แต่เมื่อ Affiliate เข้ามากลายเป็นว่าเรามีสองทางเลือกให้ทำได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวก โดยผู้ขายกำหนดค่าคอมมิชชั่นเมื่อเกิดการสั่งซื้อเข้ามาได้

ยกตัวอย่างเช่น แอดขายรองเท้าคู่ละ 100 บาท ให้ค่าคอมมิชชั่น 15% ต่อการสั่งซื้อเข้ามา 1 ครั้ง เมื่อมีคนเอาสินค้าของแอดไปทำคลิปและแปะลิงค์ Affiliate ให้ลูกค้าเข้ามา และลูกค้ากดซื้อสินค้าผ่านลิงค์นั้น คนที่เราลิงค์สินค้าแอดไปโพสต์ก็จะได้เงินค่าคอม 15 บาท

ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นบน TikTok จริงๆ ก็ไม่ได้เยอะเท่ากับแพลตฟอร์มอื่นๆ เพราะมันมีเพียงแค่ค่าธรรมเนียมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แถมถูกอย่างมาก แต่ข้อเสียเลยคือคนที่ขายสินค้าราคาต่ำกว่า 150 บาทอาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมแพงกว่าเพราะเค้าจะคิดเป็นคำสั่งซื้อขนาดเล็ก และทำให้ลูกค้าไม่อยากซื้อของเพราะต้องจ่ายส่วนต่างด้วย

สรุป

ส่วนค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ จะเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายและการทำโฆษณามากกว่า แอดแนะนำว่าช่วงนี้ TikTok กำลังมาแรงอย่างมาก หากใครกำลังหาข่องทางเพิ่ม TikTok ก็เป็นอีกช่องทางที่ดีไม่น้อยเลย แต่ต้องระวังเรื่องคอนเทนต์หรือสินค้าสักนิด ถ้าโดนแบนแล้วเงินที่เรามีค้างเอาไว้ในบัญชีมันจะถอนออกมาไม่ได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคิดค่าธรรมเนียมของ TikTok Shop ได้ที่นี่


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
สินค้าต้องห้าม TikTok และกฎข้อห้ามต่างๆ บน TikTok ที่คุณควรรู้ สำคัญมาก !!

สินค้าต้องห้าม TikTok และกฎข้อห้ามต่างๆ บน TikTok ที่คุณควรรู้ สำคัญมาก !!

แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

ปัจจุบัน TikTok เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มาแรงอย่างมาก และหลายคนก็กำลังเริ่มต้นที่จะขายของออนไลน์ผ่านช่องทางนี้ ช่วงแรกๆ มันก็ยังไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย เพราะด้วยตัวเค้าเองก็เพิ่งเปิดเป็นแนว Social Shopping ทำให้มีการผลักดันร้านค้าอย่างมาก รวมถึงทำให้ผู้ขายหลายๆ คนสามารถขายของได้อย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการขายไม่ได้มีอิสระขายได้ทุกอย่างเสมอ เค้าเองก็ยังมีข้อห้ามในด้านการขายสินค้าบางชนิด รวมถึงกฎต่างๆ ที่ห้ามไว้อยู่

ห้ามไลฟ์สดแล้วไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ปกติแล้วการไลฟ์สดเพื่อขายของมันก็ไม่ได้ผิดกฎอะไรของแพลตฟอร์มเลย แต่บางครั้งด้วยการสร้างสรรค์วิธีการไลฟ์ใหม่ๆ หรือคนที่ไม่ต้องการออกกล้องก็อาจจะใช้ภาพนิ่งและใช้เสียงอธิบายเอา ซึ่งตรงนี้ตัว TikTok มี AI คอยจับการเคลี่อนไหวของเราอยู่ทำให้รู้ได้ว่าเรายังคงอยู่ในไลฟ์หรือไม่ เพราะ TikTok เค้าไม่ต้องการให้เราไลฟ์แล้วไม่มีปฏิสัมพันธ์หรือผู้ชมไม่ได้เห็นเราเลย

ปัจจุบันระบบนี้เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานทำให้อาจจะไม่มีความเสถียรไปบ้าง เพราะจากเคสที่แอดเคยเจอในกลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายของออนไลน์บางครั้งแค่เดินไปหยิบสินค้าก็บอกว่าไลฟ์ไม่มีความเคลื่อนไหวแล้ว เรื่องนี้อาจจะต้องรอระบบของ TikTok ปรับปรุงเพิ่มเติมในอนาคต แต่เราก็ยื่นให้เค้าตรวจสอบได้เช่นกัน

หากใครคิดจะทำไลฟ์แล้วทำภาพนิ่งอย่างเดียว แนะนำว่าช่วงนี้ให้เลี่ยงๆ ไปก่อน เพราะเดียวถ้าโดนแบนแล้วบัญชีปลิวเราจะไม่ได้เงินที่อยู่ในระบบคืนอีกด้วย

ระวังเรื่องการแสดงข้อมูล

บ้านเราได้เปิดใช้ตัวกฎหมายเรื่อง PDPA มาสักระยะหนึ่งแล้ว ทำให้ข้อมูลต่างๆ ของบุคคลใดๆ ก็ตามจำเป็นต้องมีการขออนุญาตก่อนการเปิดเผยทุกครั้ง ซึ่งบางทีในช่วงระหว่างเราไลฟ์หรือถ่ายวิดีโอแล้วลงใน TikTok และเผลอไปติดพวกรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลที่สามารถระบุแหล่งหรือติดต่อบุคลลนั้นๆ ได้ก็อาจจะทำให้ TikTok แบนได้จากการแสดงข้อมูลด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อาจจะเผลอแสดงเรื่องข้อมูลการจัดส่งสินค้าก็ทำให้เป็นสาเหตุของการโดนแบนด้วยเช่นกัน อันนี้ต้องระวังกันสักนิดนึงในเรื่องการแสดงข้อมูล

การใช้คำหรือพฤติกรรมที่สื่อไปในทางไม่เหมาะสม

เรื่องนี้ถือว่าเป็นปกติของทุกแพลตฟอร์มที่หากคุณแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสมก็ถึงขั้นถูกแบนแอคเคาท์ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนขายของออนไลน์ที่อาจจะใช้รูปแสดงถึงสัดส่วนมากเกินไปด้วยเช่นกัน บน TikTok เองก็ยังมีข้อห้ามเกี่ยวกับเรื่องภาพและวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงสัดส่วนมากเกินไปก็จะทำให้ AI จับได้และถูกแบน ดังนั้นการที่ใช้ภาพหรือวิดิโอต่างๆ จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบด้วย หากอันไหนดูแล้วไม่เหมาะสมแอดแนะนำว่าให้ใช้ Emoji แปะลงไปเพื่อปิดบังหากมันเลี่ยงไม่ได้และเป็นเพียงแค่การขายสินค้าก็เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีในเรื่องการชักชวนลงทุนหรือเล่นพนันต่างๆ ที่ผิดกฎของ TikTok ด้วยเช่นกัน แต่แอดคิดว่าเรื่องนี้ทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วและคนที่เข้ามาอ่านก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว เอาเป็นว่าแนะนำให้เลี่ยงไปได้จะดีที่สุด เพราะนอกจากจะถูกแบนแล้วยังผิดกฎหมายอีกด้วย

สินค้าต้องห้ามต่างๆ

สินค้าก็มีให้เราเลือกขายหลากหลายชนิดเป็นล้านรายการ ซึ่งบางอย่างมันทำกำไรได้ดีจนหลายคนอดจะหามาขายไม่ได้ ซึ่งบางตัวมันก็ผิดกฎของแพลตฟอร์มรวมถึงผิดกฎหมายบางข้ออีกด้วย ซึ่งข้อห้ามของ TikTok เองก็ได้มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนถึงสินค้าแต่ละชนิดว่ามีอะไรเป็นของต้องห้ามบ้าง เดียวแอดจะอธิบายแบบคร่าวๆ รวมถึงสินค้าบางตัวที่ไม่น่าจะโดนแบนแต่ก็โดนด้วยเช่นกัน จะมีอะไรบ้างเดียวมาดูกันเลย

1. อุปกรณ์หรือสินค้าที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ

เรื่องสินค้าเหล่านี้จะปฏิเสธว่าเราไม่เคยเห็นเลยก็ไม่ได้ เพราะคนขายกันเยอะมากๆ แต่ในหัวข้อนี้มันก็โยงถึงพวกสินค้าจำพวกชุดนอนไม่ได้นอน ที่บางครั้งรูปนางแบบหรือรูปของสินค้าอาจจะต้องแสดงให้เห็นถึงสัดส่วนต่างๆ และแสดงให้เห็นถึงตัวสินค้าของจริง และด้วยที่มันแสดงให้เห็นถึงความวาบหวิวจึงอาจจะถูก AI มองว่าลามกอนาจารและถูกแบนได้ ในส่วนของพวกของเล่นต่างๆ ที่เรารุ้ๆ กันอยู่อันนั้นมันไม่สามารถขายได้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะตามกฎหมายของบ้านเรายังไม่ได้มีการรับรองเรื่องพวกนี้

2. สินค้าปลอมต่างๆ

ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหนก็ตามการขายสินค้าปลอมแปลงก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ขายอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าประเทศไหนๆ ก็ผิดกฎหมายกรละเมิดลิขสิทธิ์อยู่แล้ว แต่ทีนี้คุณอาจจะเกิดข้อสงสัยว่าแล้วทำไมคนอื่นยังขายได้อยู่ ก็เพราะว่า AI ยังตรวจสอบไม่เจอว่าสินค้าที่เค้าขายนั้นละเมิดลิขสิทธิ์ หากถูกตรวจพบเมื่อไหร่ก็มีความเสี่ยงอย่างมากที่คุณจะถูกแบนได้ นอกจากนี้คุณยังมีความเสี่ยงในเรื่องของกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย

ในร้านค้าที่ขายดีหรือทำรายได้ 6 – 7 หลักต่อเดือนส่วนมากเริ่มมองถึงความมั่นคง และไม่เข้าไปเกี่ยวกับสินค้าจำพวกลิขสิทธิ์เนื่องจากว่าถ้าพวกเค้าโดนมาทีมันก็ไม่คุ้มค่ากับการทำเท่าไหร่ โดยส่วนมากแล้วจะเน้นไปทางสินค้ายั่งยืนและสามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้ หากคุณเพิ่งเริ่มเข้ามาขายสินค้าแนะนำว่าอย่าเล่นพวกของผิดลิขสิทธิ์จะดีที่สุด

3. กลุ่มสินค้าพวกความสวยความงาม

ต้องบอกว่าสินค้ากลุ่มนี้จริงๆ มันก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไรจากชีวิตประจำวันของเรามากมาย แต่ปัญหาคือบางครั้งมันไม่ได้มี อย. หรือมาตรฐานอย่างถูกต้องเหมือนกับแบรนด์ใหญ่ๆ เท่าที่แอดได้เห็นมาหลายคนโดนปิดบัญชีกันรัวๆ โดยเฉพาะในกลุ่มของคนที่ขายสินค้าพวกความสวยความงาม เพราะเหมือน TikTok ยังไม่ค่อยได้เปิดกว้างให้ลงสินค้าพวกนี้นัก แต่ถ้าเกิดคุณจะขายจริงๆ แนะนำว่าให้เราส่งเอกสารจำพวกใบรับรองต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เราขาย รวมถึงยิ่งเป็นในนามบริษัทยิ่งดี เพราะด้วยเอกสารที่ถูกออกโดยภาครัฐก็มีความน่าเชื่อถือและคุณไม่ต้องหลบเลี่ยงในการขายอีกด้วย

ถ้าเป็นไปได้ให้เลี่ยงสินค้ากลุ่มพวกความสวยความงามบน TikTok กันก่อนดีกว่าหากคุณคิดจะเริ่มต้นขายถ้าคุณไม่มีพวกใบอนุญาตหรือใบตัวแทนอย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการใช้รูปภาพอย่าง Before – After ด้วยที่บางครั้งก็โดนแบนบ้าง บางครั้งก็ไม่โดนบ้าง แต่ทุกแพลตฟอร์มแทบจะห้ามกันหมดในเรื่องนี้ เพราะความสวยงามไม่สามารถวัดเป็นบรรทัดฐานได้ รวมถึงพวกคำต่างๆ ที่ใช้ในการโฆษณาด้วย เพราะบางคำอาจจะผิดกฎแพลตฟอร์มอย่างเดียว บางคำก็อาจจะผิดกฎหมายได้เลยก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอวดอ้างสรรพคุณของสินค้าเกินพอดี

กรอบรูปสินค้า Manyframe กรอบรูปสินค้าออนไลน์ไม่ต้องจ้างกราฟิก ทำได้ผ่านทั้ง Canva Photoshop และแอพในมือถือ ตกเพียงกรอบละ 0.8 บาทเท่านั้น

4. กลุ่มคลินิกเสริมความงาม

ปกติแล้วการโฆษณาหรือทำคลิปเกี่ยวกับเรื่องการฉีดสารต่างๆ เข้าร่างกายเพื่อความสวยงามแทบจะเป็นเรื่องปกติของการโฆษณาอยู่แล้ว แต่ใน TikTok เองไม่สามารถโฆษณาหรือทำวิดิโอเกี่ยวกับเรื่องพวกฉีดฟีลเลอร์ ฉีดผิว โบท็อก หรือเกี่ยวกับการตกแต่งร่างกายได้เท่าที่ควรนัก ส่วนใหญ่ที่ทำได้จะเป็นเรื่องของการดูแลสุขภาพผิว การสครับผิว การเลเซอร์ต่างๆ มากกว่า ดังนั้นคนที่ทำคอนนเทนต์หรือยิงแอดใน TikTok ต้องระวังเรื่องพวกนี้สักนิดนึง

5. สินค้าชนิดอื่นๆ

สินค้าจำพวกยาเสพติด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ พืชต้องห้าม อาวุธ สัตว์ทุกชนิด ยาชนิดต่างๆ สินค้าเหล่านี้ถูกจัดเป็นสินค้าควบคุมและต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องสำหรับสินค้าบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องยา ข้อนี้แอดคิดว่าไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ เพราะทุกคนแอดเชื่อว่าไม่ยุ่งกับเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว

สรุป

จริงๆ ยังมีสินค้าอีกหลายชนิดที่ไม่สามารถขายได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะผิดกฎหมายมากกว่า แต่สำหรับสินค้าทั่วๆ ไปแทบจะไม่มีปัญหาใดๆ ยกเว้นแต่ว่าสินค้าเหล่านั้นจะละเมิดลิขสิทธิ์หรือถึงแม้คุณจะซื้อของแท้มาขายต่อก็อาจจะโดนระงับบัญชีได้หากเจ้าของไม่ยินยอมให้นำมาขาย ดังนั้นก่อนทีจะลงขายใน TikTok ลองเช็คข้อห้ามให้ละเอียดอีกครั้งกันนะ


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
อยากให้ TikTok ปังต้องมาดูกับ10 วิธีการยอดฮิต ทำให้ติดชาร์ตบน TikTok

อยากให้ TikTok ปังต้องมาดูกับ10 วิธีการยอดฮิต ทำให้ติดชาร์ตบน TikTok

แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

ตอนนี้แอพพลิเคชั่น Social Media ที่มาแรงที่สุดคงหนีไม่พ้น TikTok ซึ่งในปีนี้ได้ทุบสถิติการดาวน์โหลดมากที่สุดในโลกอันดับ 1 ไปเป็นที่เรียบร้อย บทความนี้เราจะมาพูดถึงการทำคลิป TikTok ให้ฮิตติดกระแสกันดีกว่า

1. ทำคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแส

ทุกช่วงย่อมมีคอนเทนต์เฉพาะกันอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเราสามารถใช้กระแสตรงนั้นได้เป็นประโยชน์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาสได้ติดหน้าแรกๆ ของ TikTok ได้ด้วยเช่นกัน

2. หาจุดเด่นของ Account ตัวเองให้เจอ

สังเกตรึเปล่าว่าถ้าเป็น YouTube แต่ละช่องก็จะมีแนวทางเป็นของตัวเองไปเลย เช่น ทำอาหาร ท่องเที่ยว ตลก และอื่นๆ ซึ่งจะเป็นหัวใจหลักที่ทำให้เราสามารถเพิ่มฐานแฟนๆ ได้อย่างเหนียวแน่น และเราก็จะทำคอนเทนต์ได้ดีมากขึ้นเพราะเป็นแนวทางของเราด้วย

3. ชาเลนจ์ของ TikTok ก็ควรเข้าร่วมนะ

TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่แทบจะสร้างกระแสสำหรับช่วงนั้น หรืออะไรที่เป็นกระแสอยู่ TikTok ก็จะจับมาให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมในการเล่นได้ ซึ่งช่วยเพิ่มการมองเห็นได้ไม่น้อย

4. Hashtag ให้เหมาะสมกับช่องและคลิปของเรา

ทุกแพลตฟอร์มรวมถึง TikTok ตัวเครื่องมือ Hashtag มีส่วนช่วยทำให้เกิดการมองเห็นวิดีโอของเรามากยิ่งขึ้น ดังนั้นควรเลือกใช้ให้ดี เป็นอีกตัวช่วยที่เสริมพลังให้กับวิดีโอของเราได้มากเลย

5. คอนเทนต์เบาสมองคือของขายดี

TikTok เป็นช่องทางที่คนเข้าไปเพื่อผ่อนคลายกันมากกว่า คอนเทนต์อะไรที่เบาสมองแล้ว ช่วยเรียกยอดได้ค่อนข้างดี แต่ !! เบาสมองอย่างเดียวอาจจะไม่พอ แฝงความตลกไปด้วยเล็กน้อยก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับคลิปได้

คอร์สเรียนยิงโฆษณา Facebook พร้อมของแถมเฉพาะนักเรียนและเทคนิคพิเศษมากมาย

6. ลิปซิงค์กันสักหน่อยก็เวิร์ค

คลิปจำพวกลิปซิงค์นี้เป็นอะไรที่นิยมมากบน TikTok ไม่ว่าจะเพลง หรือ Cover วิดีโอเด็ดๆ อันนี้เรียกยอดวิวได้ดีเช่นกัน

7. คลิปสั้น ชัดเจน กระชับ

เข้าใจระบบของ TikTok ก่อนว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ลงวิดีโอแบบสั้น ดังนั้นคลิปเราจะต้องกระชับ สื่อสารได้อย่างชัดเจน หากวิดีโอยาวเกินไปจะทำให้ถูกเลื่อนผ่านได้ง่าย

8. ลงอย่างสม่ำเสมอ

ขาดไม่ได้เลยไม่ว่าจะทำคอนเทนต์ในที่ไหนๆ ความต่อเนื่องเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะหากเรามีฐานแฟนคลับเมื่อไหร่ แน่นอนว่าพวกเขาก็อยากที่จะดูเรา รวมถึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเราและผู้ติดตามด้วย นอกจากนี้การลงคคอนเทนต์บ่อยก็แสดงถึงการที่เราให้ความใส่ใจ และไม่ได้ทิ้งหาย ที่สำคัญมันช่วยให้เราได้ผู้ติดตามใหม่ๆ เพิ่มด้วย

9. เวลาที่เหมาะสม ช่วยติดปีกให้ยอดเข้าชม

ถึงแม้ว่าจะมีคนใช้งานอยู่เสมอ ช่วงเวลาแต่ละช่วงก็มีผู้ใช้งานที่ไม่เท่ากัน โดยส่วนมากคนเข้า TikTok เพื่อหาอะไรดูก็ช่วงหลังเลิกงานหรือระหว่างพักกลางวัน ดังนั้นเราอาจจะต้องดูว่ากลุ่มเป้าหมายของเราออนไลน์ช่วงเวลาไหนบ้าง จะได้ลงคลิปให้เหมาะสมกับช่วงที่แฟนๆ ของเราสะดวก

10. แปะช่องทาง TikTok ของเราในที่ต่างๆ

วิธีที่ง่ายสุดๆ สำหรับการเพิ่มยอดแฟนๆ และการมองเห็นด้วยการที่เรานำลิงค์ TikTok ของเราไปแชร์ไว้ใน Facebook, Twitter, LINE, YouTube หรือช่องทาง Social Media อื่นๆ วิธีนี้มีโอกาสช่วยเพิ่มฐานแฟนคลับและเพิ่มยอดการมองเห็นได้

ฟัง 10 วิธีการยอดฮิต ทำให้ติดชาร์ตบน TikTok ผ่าน YouTube

สรุป

10 วิธีนี้หากใช้ให้ดี จะสามารถช่วยเพิ่มได้ทั้งผู้ติดตามและยอดวิวได้เยอะพอสมควร หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ก็อาจจะค่อยๆ หาแนวทางเป็นของตัวเองก่อน และเริ่มปั้นตามแนวทางที่แอดแนะนำไว้ พอทำไปเรื่อยๆ เริ่มจับจุดได้ รับรองว่าปังแน่นอน


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping