แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

การหาสินค้ามาขายสักชิ้นไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ส่วนใหญ่เรามักจะหาตามความชอบของตัวเอง โดยเฉพาะคนเริ่มขายของใหม่ๆ ที่เน้นการหาสินค้าที่ตัวเองถนัดมาขาย และรู้หรือไม่ว่ามันอาจจะเป็นวิธีที่ผิดถ้าเราไม่ได้ศึกษาตลาดให้ดีมากพอ สำหรับคลิปนี้แอดจะมาแนะนำ 5 วิธีเช็คสินค้าว่าปังหรือแป๊ก ก่อนที่เราจะหยิบมาขายจะได้ไม่สต็อกกันเก้อ ถ้าพร้อมแล้วมาอ่านกันเลย

วิธีการที่จะแนะนำนี้เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับคนที่เพิ่งจะหาสินค้ามาลง และไม่แน่ใจว่าจะไปรอดหรือไม่ แต่มันอาจจะมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบที่ทำให้ขายได้หรือไม่ได้อีกด้วย อันนี้เอาไว้สำหรับเช็คเพื่อให้เรามั่นใจและจะได้ไว้สำหรับการวางแผนให้ดียิ่งขึ้นก่อนเข้าสู่ตลาด

1. ใช้ Google Trends

บางคนอาจจะรู้จัก แต่บางคนอาจจะไม่รู้จัก เครื่องมือ Google Trends จะเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตรวจสอบการค้นหาของคนทั่วโลก และสามารถกำหนดดูเฉพาะประเทศไทยได้ด้วย เมื่อเราหาขายสินค้าอะไรก็ลองเอาชื่อสินค้าไปค้นหาดูในนี้ได้เลย มันจะช่วยบอกแนวโน้มการค้นหาของลูกค้าได้เช่นกัน

อย่างรูปข้างล่างแอดก็ได้มีการลองค้นหาด้วยชื่อสินค้าที่แอดอยากจะนำมาขาย ก็พบว่ามีความน่าสนใจและคาดว่าการซื้อของกลุ่มลูกค้าน่าจะมีอยู่ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยๆ Google Trends ก็จะเป็นตัวปูทางให้เรามองเห็นว่าควรจะนำมาขายหรือไม่

เช็คสินค้า Google Trends

2. เช็คด้วยการปล่อยให้โฆษณาวิ่งหา

ถ้าคุณกำลังจะหาสินค้าอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าคุณต้องลองค้นหาสินค้านั้นอยู่แล้ว เบื้องต้นลองค้นหาปกติทั้งใน Google และ Facebook ด้วยชื่อสินค้าดู แล้วไม่ว่าจะเห็นใครขายก็ตามให้กดเข้าไปดูสัก 6 – 7 ชิ้น พอทีนี้เดียวโฆษณาที่ใกล้เคียงกับสินค้าที่เรากำลังหามันจะเด้งขึ้นมาให้เราเห็นเอง ทีนี้จะได้รู้ด้วยว่าแต่ละคนแต่ละเจ้าขายกันอยู่เท่าไหร่ และเราพอจะเข้าไปแทรกตลาดได้หรือไม่ แบบนี้ก็เหมือนเป็นการแอบดูโฆษณาได้เหมือนกัน

แอดบน facebook

ช่วงนี้แอดกำลังมองหาเสื้อผ้าใหม่ๆ อยู่ พอค้นหาใน Google บ่อยครั้งหรือเข้าช้อปในช่องทาง Shopee หรือ Lazada ได้สักพัก พอเปิด Facebook กลับมามันก็จะนำส่งโฆษณาเกี่ยวกับสินค้าที่เรากำลังมองหามาให้เราเห็นด้วยเช่นกัน ก็ถือว่าเป็นการเช็คสินค้าไปในตัวได้ด้วย

3. เช็คราคาสินค้าในตลาดก่อนหามาขาย

เรื่องราคาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้ชะตาได้เลยว่าธุรกิจเราจะรอดหรือไม่รอด เพราะบางคนลืมไปว่ามันจะมีค่าจิปาถะอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าเราคิดกำไรน้อยเกินไปก็จะทำให้เราอยู่ไม่ได้ หากเราขายของช่องทางไหนลองไปเช็คช่องทางนั้นก่อนว่าราคาแข่งขันกันดุเดือดหรือไม่ แล้วต้นทุนที่เรารับมาเท่าไหร่ ลองคำนวณต้นทุนบวกทุกอย่างเข้าไปในตัวสินค้าแล้วเทียบว่าสรุปแล้วเราจะรอดหรือไม่ในเวทีของสินค้าตัวนี้

การเช็คก็ง่ายมากๆ คุณเข้าไปในแพลตฟอร์มที่คุณต้องการขาย จากนั้นก็ลองค้นหาด้วยคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ แล้วเดียวระบบก็จะแนะนำมาให้ โดยตรงนี้แนะนำว่าให้เก็บข้อมูลละเอียดนิดนึง รวมถึงคอยตรวจสอบโปรโมชั่นด้วย เพราะบางสินค้าสามารถทำราคาต่ำได้จนเราสู้ไม่ไหวเลยก็มี และอาจจะต้องปรับด้วยกลยุทธ์อื่นๆ แทนการสู้ด้วยราคา

4. ดูขีดความสามารถของคู่แข่ง

สำหรับบางตลาดโดยเฉพาะสินค้าพวก Mass Market จะมีการแข่งขันที่รุนแรง และมักจะมีเจ้าตลาดอยู่ 1 คนเสมอที่ทำราคาได้ถูก ด้วยสาเหตุอาจจะเพราะได้ต้นทุนต่ำ หรือไม่ก็ใช้กลยุทธ์ทุ่มตลาด ตัวเองขาดทุนได้ขายต่ำกว่าทุนแต่ต้องการให้คู่แข่งรายอื่นหายไปจากตลาดก็มี ถ้าเกิดดูแล้วเราไม่มีจุดเด่นหรือข้อแตกต่างอะไรพอไปสู้ได้ ก็อาจจะถอยมาจากสินค้าตัวนั้นจะดีกว่า

แชร์เทคนิคสักเล็กน้อย ส่วนตัวแอดเองถ้ารู้ว่าสู้เรื่องของราคาไม่ได้ แอดจะเข้าไปสู้ด้วยการบริการและการเขียนนำเสนอให้กับลูกค้า เพื่อให้เกิดความน่าสนใจในการซื้อ ยกตัวอย่างเช่น การทำรีวิวทุกแง่มุมของสินค้า การใช้งานในรูปแบบต่างๆ เมื่อเราทำได้ระยะหนึ่งและราคาไม่ได้แตกต่างจากคู่แข่งมากนัก ก็จะทำให้ลูกค้าตัดปัญหาเรื่องราคาแพงของเราออกไปได้เลย แต่เรื่องพวกนี้คุณอาจจะต้องอาศัยประสบการณ์และการคลุกคลีอยู่กับสินค้าสักระยะหนึ่งก่อน

5. แอบดูรีวิวลูกค้าร้านอื่น

ถ้าสมมติว่าคุณจะหาสินค้าชิ้นหนึ่งมาขาย แล้วดันเป็นประเภทเดียวกัน ชนิดเดียวกัน พูดง่ายๆ คือทุกอย่างเหมือนกันหมด ให้ลองไปดูความคิดเห็น รีวิว ของร้านนั้นดู เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถอ่านความต้องการของลูกค้าและสามารถวิเคราะห์ได้ว่าสินค้าชิ้นนี้จะรอดหรือไม่ เทคนิคนี้ใช้ได้ดีกับพวกช่องทาง eCommerce และเพจ Facebook เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

คอร์สเรียนแต่งรูปง่ายๆด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ได้รูปมือโปร เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

ฟังสรุป “5 วิธีเช็คสินค้าว่าจะปังหรือแป๊ก” ผ่าน YouTube

สรุป

5 วิธีข้างต้นที่แอดได้แนะนำมา มันยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะทำให้เราวิเคราะห์ได้คลาดเคลื่อนอยุ่เหมือนกัน แต่การทำแบบนี้จะช่วยให้เรามีความเข้าใจตลาด เข้าใจสินค้า และเข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะมือเก๋านี้ก่อนจะขายอะไรก็มักจะ Research ความต้องการของลูกค้าก่อนเสมอ พร้อมกับวิเคราะห์ธุรกิจอื่นๆ ไปด้วย


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping