นาทีนี้น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักแอพ Clubhouse ที่ตอนนี้กำลังติดกระแสเป็นอย่างมาก และการใช้งานของแอพในคนไทยก็มีอัตราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง งั้นเรามาทำความรู้จักกันเลยดีกว่าว่าแอพ Clubhouse คืออะไรกันแน่?
Clubhouse คืออะไร? รู้จักแอพสุดฮิตติดเทรนด์ในช่วงนี้ (กดเลือกอ่านได้)
1. Clubhouse คืออะไร?
Clubhouse คือ แอพพลิเคชั่นที่คุยกันผ่านการสนทนาด้วยเสียงเท่านั้น ไม่มีภาพวิดีโอ ไม่มีแชท แต่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นความดังนี้มาจากที่ Elon Musk ได้ประกาศเกี่ยวกับ Neural Link ที่เป็นเทคโนโลยีการฝังชิพในสมอง ผ่านรายการ “The Good Time Show” ในแอพ Clubhouse นั่นเอง ทำให้แอพเริ่มมีคนดังระดับโลกเข้าไปใช้งานอย่างต่อเนื่องและโด่งดังเป็นพลุแตกในที่สุด
ป๋า Elon Musk ของเราเข้าร่วม Clubhouse ในรายการ The Good Time Show ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ Neural Link
จริงๆ แล้วแอพ Clubhouse เกิดขึ้นมาเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วในช่วงต้นของการระบาดโรค Covid – 19 ที่ผ่านมา แต่เพิ่งจะมาได้รับความนิยมก็ปลายเดือนมกราคม 2021 หรืออีกเกือบ 1 ปีให้หลัง
IOS สามารถกดโหลดได้ที่นี่เลย : Clubhouse Drop-in audio chat
ส่วน Android รอก่อนนะ ตอนนี้นักพัฒนากำลังเร่งดำเนินการให้ใช้งานได้บน Android อยู่จ้า
2. การใช้งาน App Clubhouse
Clubhouse เป็นแอพที่ใช้งานง่ายมาก แต่ช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่ชินแต่พอใช้ไปสัก 2-3 นาทีก็จะเริ่มเข้ามือไปเอง
การใช้งานก็ง่ายๆ หากใครมี Account อยู่แล้วก็สามารถเลือกห้องสนทนาที่เราสนใจได้เลย หรือหากเรามีคนที่สนใจจริงๆ ก็สามารถค้นหาและเข้าไปพิมพ์ชื่อผู้ใช้งานหรือหาหัวข้อที่เราสนใจเพื่อเข้าไปฟังได้เลย
เลือกห้องที่สนใจ อย่างแอดสนใจห้องในวงแดง ก็จิ้มเลือกเข้าไปเลย
ภาพด้านล่างคือเมื่อเรากดเข้าห้องจากรูปเมื่อกี้แล้ว เท่านี้เราก็ Join ห้องฟังผู้อื่นพูดได้แล้วจ้า นอกจากนี้หากคนอื่นอยากฟัง Clubhouse ไปด้วย เล่นแอพอื่นไปด้วยก็สามารถกดออกไปได้เลย เพราะ Clubhouse สามารถทำงานเบื้องหลังจากการออกแอพได้
ถ้าต้องการค้นหาผู้อื่น เราสามารถค้นหาได้ตรงไอคอน “แว่นขยายด้านซ้ายบนสุด”
เราสามารถค้นหาผู้คนและ Club อื่นๆ ที่เราต้องการได้ รวมถึงด้านล่างก็จะมีหมวด Interest ต่างๆ ให้เรากดเข้าไปดูเผื่อเจอห้องหรือ Club ที่เราสนใจ
3. สำหรับจุดเด่นและจุดด้อยของ Clubhouse ที่มองในมุมของแอดเอง
ข้อดีของ Clubhouse
- ยังไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวมากนัก เพราะว่าผู้อื่นยังเห็นได้ว่าเราฟังห้องไหน หรือใครเป็นผู้เชิญเราเข้า Clubhouse
- ถ้าพลาดแล้วไม่สามารถฟังย้อนหลังได้
- คนที่ Follow จะเห็นได้ว่าเรากำลังฟังห้องไหน เรื่องอะไรอยู่
- กินเวลาชีวิตค่อนข้างมาก เพราะต้องฟังแบบ Real – Time นั่นเอง
ข้อเสียของ Clubhouse
- เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังระหว่างทำสิ่งต่างๆ หรือฟังเวลาว่างๆ เป็นอย่างมาก
- มีความรู้สึกใกล้ชิดกับผู้พูดที่อาจจะเป็นคนดังๆ หรือใครก็แล้วแต่ (รู้สึกใกล้ชิดกว่าการ Live อีกไม่รู้ทำไม)
- ได้ตั้งใจฟังเป็นพิเศษและมีส่วนร่วมมากขึ้นมากกว่า Podcast เนื่องจากฟังย้อนหลังไม่ได้
- ใครที่ชอบพูดแบบไม่อยากให้เห็นหน้า อยากพูดกับคนเป็นกลุ่มเยอะๆ แอพ Clubhouse ตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง
4. วิเคราะห์กันกับ Clubhouse
หากมองกันจริงๆ แล้วยังมีจุดให้ต้องพัฒนาอีกมากมายพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Privacy ที่ในยุคนี้หลายคนให้ความสำคัญมากขึ้น หรือการฟังย้อนหลังที่ยังเป็นจุดอ่อนอยู่ รวมถึงหัวข้อการพูดที่อาจจะต้องมีขอบเขตในเรื่องการพูดสักนิด คาดว่าเร็วๆ นี้ยังไม่สามารถมาแทน Social Media รุ่นพี่หลักๆ อย่าง Facebook Twitter Instagram หรือ Whatsapp ได้ในทันที
และด้วยความที่ Clubhouse ยังเป็นแอพที่เพิ่งจะมาเป็นกระแส คนอาจจะยังใช้เวลาเล่นค่อนข้างนานเนื่องจากว่าบางเรื่องพูดกันที 2 ชั่วโมงหรือลากยาวตั้งแต่ 5 ทุ่มจนถึง 6 โมงเช้าเลยก็มี แต่เมื่อไหร่ที่ถึงจุดหนึ่งแล้ว ความนิยมอาจจะเสื่อมลงเพราะว่าคนเรามีเรื่องที่ต้องทำกันอีกมากมาย ไม่สามารถมาทุ่มเวลาให้กับจุดๆ เดียวเป็นเวลานานๆ ได้ จึงทำได้ระยะยาวอาจจะเป็นจุดอ่อนของแอพได้เช่นกัน
Clubhouse ตอนนี้ที่ดังเป็นพลุแตกก็ทำให้ Facebook ทนไม่ไหว กำลังพัฒนา Feature ที่มีความใกล้เคียงกับ Clubhouse อยู่เหมือนกัน ต้องมาดูว่าจะออกมาในรูปแบบใด
แล้วจะเอามาเบียดกับ Podcast ในตอนนี้ได้ไหม?
อันนี้ต้องบอกเลยว่าอาจจะยังไม่สามารถเบียดได้แน่นอน เข้าใจก่อนว่าคนที่ฟัง Podcast ส่วนใหญ่มักจะฟังตอนที่พวกเขามีเวลาว่าง และทำอย่างอื่นไปด้วย บางคนก็อาจจะออกกำลังกายไปด้วยฟัง Podcast ไปด้วย แต่ Clubhouse นั้นการจัดแต่ละครั้งต้องขึ้นอยู่กับผู้พูดว่าสะดวกเวลาไหน และยังไม่สามารถฟังย้อนหลังได้อีก ทำให้ในปัจจุบันคงยังไม่สามารถขึ้นมาเบียดจริงๆ จังๆ กับ Podcast ได้อย่างแน่นอน
5. การเข้าร่วม Clubhouse และการ Invite เพื่อน
หากเราต้องการ Invite เพื่อนเราจำเป็นจะต้องบันทึกเบอร์ลงในเครื่องก่อน แล้วก็เข้าไปใน Invite ของ Clubhouse ทีนี้ก็จะมีรายชื่อเพื่อนของเราที่บันทึกเบอร์ไว้ แล้วทีนี้ก็กด Invite ได้เลย
การเชิญ Invite เพื่อนในแอพพลิเคชั่น Clubhouse
1. กดที่รูปซองจดหมายมีดาว 1 ครั้ง
2. ไล่หาชื่อเพื่อนหรือจะพิมพ์ชื่อหาเหมือในรูปแอดก็ได้
3. เจอเพื่อนที่เราต้องการเชิญก็กด Invite ที่อยู่ขวามือได้เลย
วิธีการสมัครใช้งานเมื่อได้รับ Invite จากเพื่อนแล้ว
1. ถ้าหากเพื่อนได้กด Invite เราแล้ว ให้เรากรอกเบอร์ลงไปได้เลย ต้องใส่ +66 นำหน้านะ แล้วก็ไม่ต้องใส่ 0 ด้วย อย่างเช่น 089-123-4567 ก็ให้กรอกลงใน Clubhouse เป็น +66891234567
3. หากเราใส่ Verify Code เรียบร้อย มันก็จะเด้งเข้ามาหน้าต้อนรับเพื่อให้เราตั้งค่าโปรไฟล์ของเรา โดยสามารถเชื่อมกับ Twitter ก็ได้ หรือจะสร้างใหม่ก็ได้ แต่เดียวแอดสร้างใหม่เลย
5. ใส่ Username ของเราที่ต้องการใช้ และผู้อื่นก็สามารถค้นหาเราได้ผ่าน Username เหมือนกัน
7. เลือกติดตามคนที่เราอาจจะรู้จักบน Clubhouse อันนี้เราจะเลือกติดตามหรือไม่ก็ได้
9. เลือกติดตามคนที่ Clubhouse แนะนำเพิ่มเติมที่คุณอาจจะสนใจ แต่จะเลือกหรือไม่ก็ได้เช่นกัน
2. เมื่อเรากรอกแล้ว รอโค้ดส่งเข้ามาที่โทรศัพท์เราก่อนเพื่อ Verify เบอร์ของเรา
4. กรอกชื่อ – นามสกุลของเราลงไปในช่องได้เลย
6. เลือกรูปภาพโปรไฟล์ของเรา
8. เลือกความสนใจของเรา และประเทศเพื่อที่ Clubhouse จะได้ดึงห้องที่กำลังพูดมาแสดงให้คุณเห็นได้ตรงกับความสนใจ ตรงนี้สามารถมาปรับเพิ่มเติมทีหลังได้
10. เท่านี้ก็พร้อมเล่น กดเข้าห้องเพื่อไปฟังสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจกันได้เลยจ้า
ถ้าเป็นไปได้พยายามรับ Invite จากคนรู้จักเท่านั้นนะ เพราะ Clubhouse ยังไม่ได้มีความละเอียดเรื่องความเป็นส่วนตัวมากพอ ดังนั้นอาจจะเกิดการนำเบอร์เราไปทำอะไรแปลกๆ ได้
1. ถ้าหากเพื่อนได้กด Invite เราแล้ว ให้เรากรอกเบอร์ลงไปได้เลย ต้องใส่ +66 นำหน้านะ แล้วก็ไม่ต้องใส่ 0 ด้วย อย่างเช่น 089-123-4567 ก็ให้กรอกลงใน Clubhouse เป็น +66891234567
2. เมื่อเรากรอกแล้ว รอโค้ดส่งเข้ามาที่โทรศัพท์เราก่อนเพื่อ Verify เบอร์ของเรา
3. หากเราใส่ Verify Code เรียบร้อย มันก็จะเด้งเข้ามาหน้าต้อนรับเพื่อให้เราตั้งค่าโปรไฟล์ของเรา โดยสามารถเชื่อมกับ Twitter ก็ได้ หรือจะสร้างใหม่ก็ได้ แต่เดียวแอดสร้างใหม่เลย
4. กรอกชื่อ – นามสกุลของเราลงไปในช่องได้เลย
5. ใส่ Username ของเราที่ต้องการใช้ และผู้อื่นก็สามารถค้นหาเราได้ผ่าน Username เหมือนกัน
6. เลือกรูปภาพโปรไฟล์ของเรา
7. เลือกติดตามคนที่เราอาจจะรู้จักบน Clubhouse อันนี้เราจะเลือกติดตามหรือไม่ก็ได้
8. เลือกความสนใจของเรา และประเทศเพื่อที่ Clubhouse จะได้ดึงห้องที่กำลังพูดมาแสดงให้คุณเห็นได้ตรงกับความสนใจ ตรงนี้สามารถมาปรับเพิ่มเติมทีหลังได้
9. เลือกติดตามคนที่ Clubhouse แนะนำเพิ่มเติมที่คุณอาจจะสนใจ แต่จะเลือกหรือไม่ก็ได้เช่นกัน
10. เท่านี้ก็พร้อมเล่น กดเข้าห้องเพื่อไปฟังสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจกันได้เลยจ้า
ถ้าเป็นไปได้พยายามรับ Invite จากคนรู้จักเท่านั้นนะ เพราะ Clubhouse ยังไม่ได้มีความละเอียดเรื่องความเป็นส่วนตัวมากพอ ดังนั้นอาจจะเกิดการนำเบอร์เราไปทำอะไรแปลกๆ ได้
การเขียนพาดหัวให้ปังทำได้ไม่ยาก เพิ่มยอดขายได้ชัวร์ ก็อปวางเป็นของคุณได้ทันทีแบบง่ายๆ
6. หากใครไม่อยากอ่าน ข้ามมาดูวิดีโอได้เลย
7. ทริคเพิ่ม Invite Clubhouse จาก 2 ให้เป็น 5
อันนี้จากที่แอดสังเกตมา 2 แอคเคาท์แล้วที่ได้ 5 Invite โดยน่าจะมีผลมาจากการ Verify อีเมล และการใช้งานบน Clubhouse ไปสักพักถึงจะเพิ่ม Invite เข้ามาให้
7.1. Verify Email
การ Verify Email น่าจะมีส่วนช่วยให้เพิ่ม Invite จาก 2 เป็น 5 ได้ ส่วนใหญ่ที่แอดทดสอบนั้นมีการ Verify ทุก Account เลย ยังไม่ได้ลองใช้ Account แบบที่ไม่ได้ Verify
การ Verify Email ให้ไปที่โปรไฟล์ส่วนตัว แล้วเลือกปุ่ม “@ ที่อยู่ข้างๆ เฟือง” (แอคเคาท์ที่เทสอันนี้ยืนยันไปแล้ว)
7.2. ใช้งานไปสักพัก
ตอนแรกที่ยังไม่ได้ Verify Email แอดก็เล่น Clubhouse เป็นเวลาพอสมควรเลยนะ แต่หลังจากที่ Verify แล้ว แล้วลองกลับมาใช้งานเหมือนเดิม ก็ปรากฎว่าการเชิญจาก 2 ขึ้นมาเป็น 3 ก่อน พอเล่นไปอีกสักแปบก็ขึ้นมาถึง 5 เลย
คาดการณ์ว่า หากต้องการให้ได้ 5 Invite อาจจะต้องยืนยันอีเมลก่อน แล้วใช้งานบน Clubhouse ไปสักพัก เดียวก็จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 5 Invite เหมือนในรูปด้านล่างของแอดให้เอง
สรุป
Clubhouse เป็นแอพพลิเคชั่นที่มีประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้ลูกเล่นหรือจุดเด่นการใช้งานไม่ค่อยมีอะไรก็ตาม แต่สร้างความน่าสนใจได้มากเหมือนกัน เพราะเราสามารถพูดคุยกันด้วยเสียง และไม่ต้องเห็นหน้าหรือเปิดวิดีโอกันเลย
และอีกอย่างใน Clubhouse ก็มีหัวข้อหรือเรื่องต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับการตลาด การสอนทำโฆษณา คุยกันเรื่องเทรนด์เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งคุยเรื่องทั่วไปและการปรึกษาหมอ
หากเรารู้จักใช้งานในช่วงเวลาว่างๆ หรือหาความรู้ บอกเลยว่าที่นี่ก็เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นยอดให้กับทุกคนได้เหมือนกัน
สำหรับ Marketing In Secret เองก็มีความรู้ดีๆ เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Social Media ให้อ่านอยู่เรื่อยๆ สามารถกดปุ่มด้านล่างเพื่อเลือกอ่านได้เลย