แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

โลกออนไลน์ปัจจุบันเป็นเหมือนทั้งช่องทางสำหรับการติดต่อเพื่อนๆ คนรู้จัก หรือแชร์เรื่องราวต่างๆ ให้กับเพื่อนของเรา แต่ไม่ใช่เพียงแค่ไว้สำหรับติดต่อเท่านั้น ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งที่ทำให้คนสามารถสร้างตัวกันได้มากขึ้นจากการ “ขายของออนไลน์” ซึ่งหนึ่งในช่องทางยอดนิยมก็คือ “Facebook” ในบทความนี้เราจะพาคุณมาสร้างเพจ Facebook ขายของกันว่าทำยังไง และแอดจะแชร์วิธีการสร้างเพจให้คุณขายได้แน่นอนแบบ 100% หากเอาไปปรับใช้ให้ดี

เริ่มต้นสร้างเพจ Facebook ขายของ

Step 1

เริ่มต้นเลยให้เราเปิดหน้า Facebook ขึ้นมา แอดจะขอสอนบนเวอร์ชั่นคอมพิวเตอร์ก่อนนะ จากนั้นให้เรามองที่ด้านซ้ายมือถ้ามีคำว่าเพจก็ให้กดเข้าไปเลย แต่ถ้าไม่มีให้เรามาเลือกตรง “เมนู” ตามรูปด้านล่างเลย แล้วจากนั้นก็เลื่อนหาคำว่า “เพจ” ส่วนเฟสนี้แอดใช้สำหรับเป็นแอดมินเพจอย่างเดียวมันเลยขึ้นมาตรงล่าสุด เพราะเป็นฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยสุดแล้วสำหรับเฟสนี้

วิธีสร้างเพจ Facebook

Step 2

เมื่อหาเจอแล้วให้เรากดเลือกที่ “สร้างเพจใหม่” ได้เลย

Tip & Trick หากคุณใช้เฟสที่พึ่งสร้างได้ไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือน แล้วไม่มีความเคลื่อนไหวเลย แอดขอแนะนำให้คุณเข้าใช้งานเฟสนั้นบ่อยๆ เล่นให้เหมือนคนปกติเล่นมากที่สุด หากคุณเอามาสร้างเลยเสี่ยงที่จะโดนให้ยืนยันตัวตนได้ง่าย และหากสร้างแล้วโดนแบนบ่อยเดียวพอสร้างอีกก็โดนแบนอย่างแน่นอน

เริ่มสร้างเพจ Facebook

Step 3

กรอกข้อมูลให้หมดครบถ้วนทุกช่อง แอดขอแนะนำวิธีการตั้งชื่อสักนิดว่าควรตั้งอย่างไรดี เพื่อให้คนหาเจอและง่ายต่อการค้นหาของผู้ใช้งาน สำหรับการตั้งชื่อเพจจะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ คือ ตั้งเป็นชื่อแบรนด์ตัวเองหรือชื่อธุรกิจตัวเองเลย กับอีกแบบคือ การตั้งชื่อเพจให้สอดคล้องกับสินค้าที่เราขาย ลองดูตัวอย่างกันว่าเป็นประมาณไหน

ตัวอย่างตั้งชื่อแบรนด์หรือธุรกิจของตัวเอง

  • Avocado Apple
  • Stardust
  • โชคอนันต์ อะไหล่ยนต์

ตัวอย่างตั้งชื่อเพจให้สอดคล้องกับสินค้าที่เราขาย

  • เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอล เครื่องชั่งน้ำหนักราคาถูก เครื่องชั่งน้ำหนัก Digital
  • เสื้อทำงาน เสื้อแฟชั่นผู้หญิงสวยๆ เสื้อครอป เสื้อแฟชั่นตามกระแสราคาถูก
  • กล้องวงจรปิด กล้องวงจรปิดราคาถูก กล้องวงจรปิด ….. (ชื่อยี่ห้อ)

ทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนหรือรูปแบบของธุรกิจไว้อย่างไร สำหรับการตั้งชื่อเพจเป็นแบรนด์หรือธุรกิจของตัวเองก็จะได้ของการจดจำของลูกค้า หรือเหมาะกับคนที่มีหน้าร้านออฟไลน์และต้องการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ด้วย

อย่างพวกร้านขายส่งหรือธุรกิจขายส่งเองก็เหมาะมาก เพราะบางครั้งลูกค้าที่บังเอิญผ่านไปหน้าร้านแต่ยังไม่กล้าเข้า ก็มักจะเอาชื่อร้านมาค้นหาบนโลกออนไลน์ก่อน แล้วค่อยมีการไปสั่งซื้อหน้าร้านอีกครั้งหากต้องการก็มี

ในฝั่งของการตั้งชื่อเพจให้สอดคล้องกับสินค้าที่เราขายมันก็มีข้อดีคือ “ช่วยเพิ่มอัตราการค้นหาให้เจอง่าย” สำหรับบน Facebook เองใช่ว่าคนจะค้นหาชื่อเพื่อนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีการค้นหาสินค้าหรือชื่อเพจด้วยเช่นกัน หากเราตั้งชื่อเพจให้สอดคล้องกับการค้นหาก็จะเพิ่มโอกาสในการที่ Facebook จะนำเพจของเราไปแสดงให้ลูกค้าเห็นได้ด้วย

แต่ข้อเสียเลยคือเราจะไม่มีชื่อร้านจริงๆ ให้เป็นภาพจำของลูกค้า หรือถ้าลูกค้าซื้อของคราวหน้าก็อาจจะจำไม่ได้ด้วยว่าซื้อจากไหนหากไม่ได้ย้อนกลับไปดูแชท ลองเลือกทั้งสองวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละคนกันดูนะ

สมมติว่าแอดเลือกได้แล้วตั้งชื่อเพจเป็นสินค้าที่ตัวเองขายเลยละกัน เราก็ใส่รายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน เลือกแท็กให้เหมาะสม อันนี้สำคัญมากเพราะเกี่ยวข้องกับการค้นหาด้วยเช่นกัน ซึ่งเพจ Facebook เองเราก็ทำ SEO ได้ด้วยนะ เพื่อเพิ่มการมองเห็นและให้ลูกค้าค้นหาได้ง่าย ใส่ครบแล้วก็กดสร้างเพจไปได้เลย

ตั้งชื่อเพจ Facebook

ต่อมาเพื่อสร้างเพจเสร็จแล้ว ทาง Facebook เค้าก็จะให้เราใส่รูปโปรไฟล์และรูปภาพหน้าปก หากเรายังไม่ได้ทำรูปหรือเตรียมรูปไว้ก็กดบันทึกไปก่อนก็ได้ค่อยมาใส่ภายหลัง

เพิ่มเติม ใครที่ไม่รู้ว่าจะทำรูปปกหรือรูปโปรไฟล์ขนาดไหนดี ลองดูบทความ ขนาดรูปภาพ Facebook ปี 2022 อัพเดทล่าสุด

รูปปก Facebook

เมื่อเราสร้างเพจเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมไปตั้งค่าเพจส่วนอื่นๆ ให้เรียบร้อย ทั้งรูปโปรไฟล์เพิ่มเว็บไซต์ถ้าเรามี เพิ่มเวลาทำการหรือส่วนอื่นๆ ให้ครบทั้งหมดก็เป็นอันเสร็จสิ้นเรียบร้อยในการสร้างเพจ

ที่สำคัญอย่าลืมเลือกปุ่ม Call To Action ให้เหมาะสมกับบทบาทของเพจเราด้วยนะ เพราะปุ่มนี้ก็มีความสำคัญด้วยเช่นกันต่อการทำการขายและช่วยเพิ่มยอดขายให้ได้แบบคาดไม่ถึงด้วย ที่สำคัญคืออย่าละเลยเด็ดขาดเพราะมันใช้งานได้ “ฟรี”

ปุ่ม Call To Action Facebook

ทำอย่างไรให้ได้คนติดตามเพิ่ม และเพิ่มโอกาสในการขาย

ต้องบอกว่า Facebook ก็เปรียบเหมือนกับเว็บไซต์ที่จะให้คนเข้ามาดูร้านค้าของเราและเราก็ต้องวางแผนกันสักนิดว่าอยากให้คนเห็นอะไรในเพจของเราบ้าง เดียวเรามาเตรียมตัวกันดีกว่าว่าจะเพิ่มคนติดตามกดไลค์เพจของเราและเพิ่มยอดขายได้ด้วยวิธีไหนบ้าง ?

สร้างโพสต์ไว้ในเพจสักตัว

เริ่มต้นเลยเพจของเราก็จะไม่มีอะไรทั้งนั้น เนื่องจากว่าเราเพิ่งสร้างเพจมาใหม่ อันดับแรกให้เราเริ่มต้นจากการสร้างโพสต์ก่อน โดยหากเป็นการขายของก็อาจจะสร้างอัลบั้มของสินค้าเอาไว้ หรือสร้างโพสต์เป็นแนวต้อนรับก็ได้ หรือจะบ่งบอกถึงตัวตนเราก็สามารถทำได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการสื่อออกมาในลักษณะไหน

แต่ส่วนมากหากคุณเป็นคนที่ขายสินค้าตามปกติก็อาจจะสร้างอัลบั้มของสินค้าคุณไว้สักชุด เผื่อไว้สำหรับแชร์ลงกลุ่มหรือแชร์ไปยังที่ต่างๆ จะได้เห็นข้อมูลทีเดียวเลย

Tip&Trick โพสต์ไหนที่คุณต้องการให้อยู่บนสุดแนะนำว่าให้ใช้ฟีเจอร์ Pin Post หรือบางคนอาจจะเรียกว่า “ปักหมุดโพสต์” ได้เลย เพื่อให้คนที่เข้ามาในเพจของเราได้เห็นโพสต์นั้นก่อน

Tip&Trick 2 เลือกใส่ Hashtag ให้เหมาะสม เพราะบางคนก็มีการค้นหาของต่างๆ ผ่าน Hashtag ด้วยเช่นกัน หากคุณเลือกได้อย่างเหมาะสม เดียว Facebook ก็จะดึงโพสต์ของคุณไปแสดงในการค้นหาด้วยเช่นกัน

แชร์คอนเทนต์ประเภทความรู้บ้าง

คอนเทนต์ปกติสำหรับเพจขายของก็มักจะเกี่ยวข้องกับการขายของเพียงอย่างเดียว แต่นั่นก็จะทำให้ดูน่าเบื่อมากเกินไป บางครั้งคุณอาจจะหาเวลาว่างสักนิดและทำคอนเทนต์เกี่ยวกับความรู้ของสินค้าชนิดที่คุณขายดู มันสามารถช่วยเพิ่มความน่าสนใจและเพิ่มการติดตามของผู้ใช้งานมากขึ้นด้วย รวมถึงทำให้เพจดูไม่น่าเบื่อ และบางครั้งสินค้าของคุณอาจจะไปช่วยแก้ปัญหาจนลูกค้าต้องตัดสินใจซื้อจากการทำคอนเทนต์ประเภทความรู้ก็ได้

ทำวิดีโอสักหน่อย เพิ่มยอดวิวได้เยี่ยมเลย

ปัจจุบัน Facebook ได้ปิดกั้นการมองเห็นแบบโหดมากๆ และก็อยู่ในช่วงระหว่างที่สับสนตัวตนดั้งเดิมของตัวเอง โดยตอนนี้ Facebook ได้มีประกาศออกมาแล้วว่าจะมีการผลักดันคอนเทนต์ประเภทวิดีโอให้มากยิ่งขึ้น ทำให้คนที่ทำวิดีโอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมีความได้เปรียบอย่างมาก โดยหากคุณคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้ลองไปดูคลิปใน TikTok ก็ได้ว่าคุณหยุดดูวิดีโอแบบไหน แล้วลองเอามาปรับใช้กับ Facebook ดูก็ได้ วิธีนี้บอกเลยได้ผลดีสุดๆ

เพิ่มเติมสักนิด สำหรับฟีเจอร์ Facebook Reels ที่จะลงไปในเพจได้คุณจำเป็นจะต้องมีการใช้งานสักพักก่อน แล้วจากนั้นฟีเจอร์ดังกล่าวก็จะขึ้นมาให้ในเพจของเรา

สรุป

สำหรับการสร้างเพจ Facebook ก็ไม่ยากเท่าไหร่ แนะนำว่าหากคุณขายสินค้าหลากหลายชนิดให้ทำเพจแยกจะดีกว่า เพราะจะได้มีความชัดเจนและง่ายต่อการค้นหาของลูกค้า หรือถ้าคุณเป็นสายพรีออเดอร์ก็สามารถทำเพจรวมได้เช่นกัน แต่แยกประเภทสินค้าหรือจัดหมวดหมู่ไว้ให้มันหน่อยก็ได้ ที่สำคัญคือ Facebook สามารถทำ SEO เพื่อเพิ่มอัตราการค้นหาของลูกค้าได้ด้วย


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping