หลังจากที่ Facebook ได้ยกเลิกเครื่องมือหลายๆ ตัวออกไปไม่ว่าจะเป็น Audience Insight Facebook Analytics ก็ทำให้หลายคนไม่รู้จะหันไปทางไหน และไม่รู้จะเอาเครื่องมืออะไรมาแทนที่มันดี แต่ถึงแม้ตอนช่วงที่ Facebook ยกเลิกเครื่องมือเหล่านี้ไปแต่ก็ได้เอา Facebook Business Suite มาให้แทน แล้วมันมีฟีเจอร์อะไรบ้าง เรามาดูพร้อมกันเลย
Facebook Business Suite เครื่องมือเดียวครบ จบทุกฟีเจอร์ (กดเลือกอ่านได้)
รู้จักกับ Facebook Business Suite
Facebook Business Suite คือเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณจัดการบัญชี Facebook และ Instagram ได้ทั้งหมด จบครบในตัวเดียว ไม่ว่าคุณจะมีกี่ 10 กี่ 100 เพจก็สามารถใช้เครื่องมือนี้จัดการได้ จากเดิมที่ต้องสลับแอคเคาท์นุ้นที นี้ที คราวนี้ไม่ต้องสลับไปสลับมาให้ปวดหัวกัน และง่ายต่อการจัดการข้อมูลต่างๆ ด้วย
Facebook Business Suite ใช้ได้บนอุปกรณ์ไหนบ้าง
สำหรับตัว Facebook Business Suite สามารถใช้ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ โดยสามารถเข้าไปดาวน์โหลดตาม App Store และ Play Store ได้เลย ส่วนบนคอมนั้นเราต้องเข้าไปที่หน้าเพจก่อนแล้วมันจะมีให้เราเลือกเข้าไปสู่ Facebook Business Suite
ฟีเจอร์ของ Facebook Business Suite
ดูภาพรวมของธุรกิจเราแบบคร่าวๆ
ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์ของโพสต์ เนื้อหา กลุ่มเป้าหมาย และเราเลือกดูรายงานตามวันที่เราต้องการได้ด้วยทั้งบนเพจ Facebook และบัญชี Instagram ของเรา
ดูกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนเพจหรือบน Instagram
ดูการแจ้งเตือนต่างๆ ผ่านหน้า Facebook Business Suite ได้ด้วยเช่นกัน สะดวกอย่างมากในการติดตามข่าวสารไม่ว่าคนคอมเมนต์โพสต์ กดไลค์ กดแชร์ รวมถึงคนที่ Mention เพจเรา
ดูกล่องข้อความได้ง่าย
หากคุณมีหลายเพจ ตัวเครื่องมือ Facebook Business Suite จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เราได้เป็นอย่างมาก เพราะเราจะสลับบัญชีเพจหรือ Instagram ได้เลยทันที เพียงแค่กดตรง Drop Down แล้วเลือกบัญชีที่เราต้องการเท่านี้ก็ไล่ตอบแชทได้อย่างทันใจแล้ว
สร้างโพสต์และสตอรี่ก็ง่าย
การสร้างโพสต์และสตอรี่ของเราจะทำง่ายขึ้น เนื่องจากว่า Facebook ได้มีการอัพเดทเครื่องมือ “การวางแผน” เราสามารถเข้าไปเลือกปฏิทินและสร้างคอนเทนต์ที่จะโพสต์ไว้ล่วงหน้าได้เช่นกัน มันช่วยให้เราวางแผนการโพสต์เนื้อหาลงในเพจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยทำบน Facebook Business Suite ได้ทันที
ทำโฆษณาได้ง่ายขึ้น
เราสามารถสร้างชุดโฆษณาได้จากหน้า Facebook Business Suite ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องเข้าไปที่หน้าจัดการโฆษณา พร้อมทั้งดูประสิทธิภาพของโฆษณาที่เราปล่อยไปได้จากหน้านี้ได้ด้วย
เครื่องมืออื่นๆ
หากกดไปที่แท็บเครื่องมือของหน้า Facebook Business Suite จะมีเครื่องมือหลากหลายชนิดให้เราได้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกลุ่มเป้าหมาย ตัวจัดการเหตุการณ์ นัดหมาย ตั้งค่าร้านค้า และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าตัวเดียวดือจบทุกปัญหาจริงๆ ยิ่งใครเป็นสายขายของออนไลน์แล้ว เพจที่มีก็คงไม่ใช่น้อยๆ งานนี้ตัว Facebook Business Suite นี่แหละจะมาเป็นพระเอกให้กับเราเอง
สรุป
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ Facebook นับได้ว่าสร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้งานอย่างมาก แต่เสียอย่างเดียวตรงที่เดิมเครื่องมือ Facebook Audience Insight มันช่วยให้เราดูกลุ่มเป้าหมายของเราคร่าวๆ ได้ แต่ตอนนี้เราจะดูได้เพียงแค่เพจของเราเท่านั้น แต่มันก็สามารถนำมาต่อยอดและช่วยวิเคราะห์ได้ระดับหนึ่งแล้ว ส่วนใครมีความคิดเห็นยังไง ก็มาพูดคุยกันผ่านเพจ Facebook Marketing In Secret กันได้เลย