ช่วงนี้มีกระแสกำลังมาแรงเกี่ยวกับเรื่องเงินเก็บในธนาคารที่หลายคนกังวลใจกัน แต่แอดจะไม่พูดถึงที่มาละกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง คิดว่าทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้ว การเก็บเงินก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะมันจะทำให้เรามีไว้สำรองใช้จ่ายค่าอะไรต่อมิอะไรต่างๆ ในอนาคตหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
หากคุณคิดว่ามีเงินเก็บแล้วในระดับหนึ่ง แล้วต้องการเอาเงินตรงนี้ไปต่อยอดหรือจะทำยังไงให้มีเงินมากกว่าเดิม เรามาอ่านบทความนี้กันครับ
7 วิธีเปลี่ยนเงินเก็บในธนาคารให้มากกว่าเดิมเป็น 10 เท่า (กดเลือกอ่านได้)
เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งได้ แต่สามารถทำให้เรามีความสุขและได้ในสิ่งที่เราต้องการได้ ดังนั้นหลายคนจึงต้องพยายามทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้ได้เงินเก็บไว้ใช้ซื้อสิ่งของที่ต้องการ หรือบางคนเก็บไว้เลี้ยงดูตัวเองยามแก่ แต่จะทำยังไงถ้าเราเก็บเงินไว้ในธนาคารเฉยๆ ดอกเบี้ยก็ได้น้อยแสนน้อย แถมยังมีเรื่องของเงินเฟ้อที่จะทำให้มูลค่าเงินของเราลดลงทุกปีอีก งั้นเรามาใช้เงินทำงานช่วยเราดีกว่า
1. นำเงินไปลงทุนหุ้น
หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็มีมากมายหลากหลายประเภท ซึ่งให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกำไร การเติบโต การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งการลงทุนหุ้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีเหมือนกัน เพราะเราก็มีโอกาสจะได้เงินปันผล นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นจากการขายหุ้นได้อีกด้วย แต่สำหรับมือใหม่อาจจะต้องศึกษาหนักมากหน่อย ถึงแม้จะได้ผลตอบแทนที่ดีจนบางคนหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ แต่การลงทุนก็ย่อมมีความเสี่ยง ต้องศึกษาให้ดีก่อนการลงทุนด้วยทุกครั้งนะครับ
ระดับความเสี่ยง : สูง
2. ลงทุน Cryptocurrency
อีกหนึ่งตัวเลือกของการลงทุนสำหรับคนที่ไม่ชอบลงทุนหุ้น แต่ก็สามารถลงทุนในคริปโตได้เช่นกัน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนทั่วโลก คุณต้องเข้าใจก่อนว่าคริปโตนั้นจะไม่มีใครควบคุมด้วยหน่วยงานใดๆ แต่มันจะควบคุมดูแลด้วยตนเองเรียกว่า Blockchain นั่นเอง
และการลงทุน Cryptocurrency สามารถทำได้ 2 แบบคือ
- การใช้วิธีการขุด
- ใช้วิธีการเทรดแลกเปลี่ยน
อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนว่าชอบแบบไหน ที่สำคัญคือคริปโตมีความเสี่ยงอย่างมาก ตลาดเปิดตลอดเวลา สำหรับในไทยเองก็สามารถเทรดผ่านได้ทั้ง Bitkub Zipmex และอื่นๆ อีกมากมาย ทางไทยเองก็ได้มีกฎหมายเกี่ยวกับ Cryptocurrency แล้ว ทำให้การซื้อขายบนแพลตฟอร์มที่ถูกรองรับทำให้มีความสบายใจมากยิ่งขึ้น และคุณจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไทยได้
ระดับความเสี่ยง : สูง
3. ขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์เป็นวิธีที่นิยมอย่างมากสำหรับในบ้านเรา เพราะสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาที่เราต้องการ ไม่มีความซับซ้อนมากนักหากเทียบกับการลงทุนหุ้นหรือคริปโต แต่ถึงแม้จะมีความซับซ้อนที่น้อยกว่าคุณก็ต้องศึกษาวิธีการขาย การเข้าใจลูกค้า หรือแม้กระทั่งการหาสินค้าให้ตอบโจทย์เพื่อขายให้ได้เป็นปริมาณมาก และยังมีเรื่องภาษีที่คุณควรรู้ไว้อีก แต่ยังไงก็ตามการขายของออนไลน์มันก็เหมือนกับนำเงินไปลงทุน และเมื่อได้กำไรกลับมาเงินเราก็จะงอกเงยมากยิ่งขึ้น
ระดับความเสี่ยง : ต่ำค่อนไปทางกลางๆ
4. ลงทุนในสลากออมสิน
สลากออมสินมีลักษณะคล้ายกับเงินฝาก แต่แตกต่างตรงที่เราจะมีโอกาสได้ลุ้นรับรางวัลจากเลขสลากออมสินด้วย นอกจากเราจะได้รางวัลแล้ว เราก็ยังได้ดอกเบี้ยตามที่ธนาคารออมสินได้กำหนดไว้อีก รวมถึงถ้าคุณถูกรางวัลไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ คุณก็จะได้รับเต็มจำนวนไม่ต้องเสียภาษีใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับสลากออมสินจะสามารถซื้อได้ทั้งแบบที่สาขาเราจะได้เป็นกระดาษมากับซื้อแบบดิจิตอล โดยมีขั้นต่ำตั้งแต่ 1 ปีเป็นต้นไป ส่วนเงื่อนไขอื่นๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.gsb.or.th
ระดับความเสี่ยง : ต่ำ
5. ลงทุนในกองทุนรวม
กองทุนรวม คือ การรวบรวมเงินทุนจากนักลงทุนต่างๆ หลายๆ คนมาไว้เป็นก้อนเดียวกัน และบริษัทหลักทรัพย์จะมีหน้าที่ในการนำเงินไปจดทะเบียน และนำเงินนั้นไปลงทุนตามที่ได้กำหนดไว้ในเงื่อนไข ซึ่งข้อดีคือมีความหลากหลายในด้านของการลงทุน ใช้เงินลงทุนไม่มาก และคุณจะได้รับ “หน่วยลงทุน” เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของ
นอกจากนี้ในกองทุนรวมก็จะมีประเภทอยู่หลายประเภทให้เราเลือกลงทุนด้วยกัน เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมตราสารทุน เป็นต้น
ระดับความเสี่ยง : ต่ำไปจนถึงสูง แล้วแต่ประเภทการลงทุน
ประหยัดต้นทุนในการทำโฆษณาลง 30% และค้นหากลุ่มเป้าหมายให้กับธุรกิจได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย InterestPRO
6. ลงทุนทองคำ
การลงทุนทองคำ ปัจจุบันมีหลายรูปแบบ และร้านทองหลายร้านก็มีบริการเกี่ยวกับการออมทองมากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่าเป็นสิ่งที่หายากและมีปริมาณที่จำกัด และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทำให้ราคาทองทั่วโลกเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจของโลกได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่มีการปรับราคาตามสภาวะเงินเฟ้อของประเทศ พูดง่ายๆ คือ เมื่อเงินเฟ้อมากขึ้น ราคาทองก็จะขยับขึ้น และมีโอกาสขยับสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อได้อีก ทำให้คนที่ถือทองยังรักษาอำนาจการซื้อไว้ได้ และการลงทุนทองคำเองเราก็สามารถซื้อที่หน้าร้านก็ได้ หรือจะซื้อผ่านออนไลน์ด้วยการสะสมทองก็ได้ หรือจะลงทุนผ่านกองทุนก็ทำได้ อันนี้แล้วแต่สะดวก แต่ยังไงก็ตามควรศึกษาให้ดีก่อนที่จะลงทุนทุกครั้งด้วยนะ
ระดับความเสี่ยง : กลางๆ ไปจนถึงสูง ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของประเทศและโลก
7. ของสะสมก็นับเป็นการลงทุน
คุณเคยได้ยินหรือไม่ว่าของเก่ามักจะมีราคาเสมอ แต่ไม่ใช่ของเก่าทุกชนิดจะมีราคาไปทั้งหมด ขึ้นกับความนิยมของประเภทสินค้านั้นๆ ด้วย เช่น กระเป๋า Chanel, กระเป๋า Louis Vuitton ที่บางใบเป็นคอลเล็กชั่นแรร์ๆ พอเก็บไว้นานราคามันก็ยิ่งขึ้นกว่าเดิมก็มี หรือแม้กระทั่งพวกเสื้อผ้าวินเทจบางตัวราคาสูงๆ ก็มี ซึ่งอันนี้ก็ต้องดูตลาดและความต้องการด้วยว่าของสะสมชิ้นไหนเป็นที่ต้องการหรือไม่ เป็นอีกการลงทุนที่ดีเหมือนกันสำหรับคนที่มีงานอดิเรกในการสะสมของ
ฟังเรื่อง 7 วิธีเปลี่ยนเงินเก็บในธนาคารให้มากกว่าเดิมเป็น 10 เท่า ผ่าน YouTube
สรุป
สุดท้ายการลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุดคือ “การลงทุนกับความรู้” ยิ่งเรามีความรู้มากเท่าไหร่ มันจะเป็นอาวุธให้เราสามารถทำเงินหรือใช้ประโยชน์ได้ดีมากยิ่งขึ้น ส่วนการลงทุนที่แนะนำไปนั้น อย่าลืมศึกษาก่อนที่จะลงทุนด้วยทุกครั้ง เพราะเมื่อเราได้ยินคำว่าลงทุนเมื่อไหร่ ให้เราคิดไว้เลยว่ามันมีความเสี่ยงตามมาเสมอ ดังนั้นต้องศึกษาให้ดีด้วยครับ