ในยุคปัจจุบันเป็นยุคของโลกดิจิตอลเป็นหลัก การทำการตลาดออนไลน์จึงเป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจากว่าคนส่วนใหญ่ก็มักจะใช้โลกออนไลน์ในการติดต่อสื่อสารรวมถึงการเสพข่าว เสพสื่อ ความบันเทิงต่างๆ เป็นหลัก โดยที่ไม่ต้องออกมาพบเจอหน้ากันเหมือนในยุคก่อน และในสมัยก่อนที่เวลาจะทำการตลาดทั้งทีเราก็ต้องพึ่งช่องทางออฟไลน์เป็นหลัก อาทิเช่น ป้ายบิลบอร์ด ป้ายโฆษณาตามตึก ตามรถเมล์หรือรถต่างๆ เป็นต้น แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ทำให้เกิด “การตลาดออนไลน์” ขึ้นมา
การตลาดออนไลน์คืออะไร ? ทำไมทุกธุรกิจถึงควรทำ (กดเลือกอ่านได้)
การตลาดออนไลน์คืออะไร ?
การตลาดออนไลน์ คือ การทำโฆษณาหรือบอกเล่าเรื่องราวผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ตามแต่ละแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ก็เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการทำธุรกิจและสามารถหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้มากขึ้น โดยเป็นการเขียนเนื้อหา ทำวิดีโอ เผยแพร่ให้กับผู้อื่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา
ข้อดีของการตลาดออนไลน์

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ผู้คนสามารถเชื่อมต่อกันได้มากขึ้น และเข้าถึงกันได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง นอกจากนี้เราสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้พรมแดนตราบใดที่มีอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มให้บริการอยู่
การทำการตลาดออนไลน์ก็มีข้อดีอยู่หลายข้อมากเช่นกัน อาทิเช่น
สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย
ด้วยความที่โลกออนไลน์สามารถทำให้ผู้คนได้พบปะกัน ดังนั้นการสื่อสารจึงทำได้ง่าย เพียงแค่เราเผยแพร่เนื้อหาที่เราต้องการสื่อสาร เพียงเท่านี้ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาดูเนื้อหานั้นได้ รวมถึงการแสดงความคิดเห็น แบ่งปันกับคนอื่นๆ ได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่าปัจจุบันเราจะมีให้เลือกหลากหลายช่องทางในการทำการตลาด แต่ยังไงก็ต้องมีช่องทางที่เราโฟกัสไว้สักที่ ยกตัวอย่างเช่น คุณวิเคราะห์มาแล้วว่า Facebook คือแพลตฟอร์มที่กลุ่มลูกค้าของเราอยู่เยอะมากที่สุด ก็ให้เราเน้นไปที่ Facebook ก่อนอันดับแรกๆ แล้วภายหลังค่อยขยายไปทำการตลาดในแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ได้
Tip เพิ่มเติม ปี 2022 Facebook ได้เปลี่ยนแปลง Algorithm ที่การโพสต์ปกติการมองเห็นถูกลดลงมาก แนะนำถ้าคุณไม่มีงบหรือต้องการเพิ่มการมองเห็นลองไปใช้ Facebook Reels ดีกว่า ช่วงนี้รีบกอบโกยให้เร็วที่สุด (ข้อมูลอัปเดต 08/09/65)
ช่วยเพิ่มยอดขาย
การเข้าถึงง่ายนี้เองทำให้ช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น เพราะเราสามารถเผยแพร่สิ่งต่างๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้เยอะ ยิ่งเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสในการขายได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงบางบริษัทหรือบางธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายได้หลัก 1000% จากการทำ “การตลาดออนไลน์” ได้เลย แต่ก่อนอื่นเราก็ต้องค้นหากลุ่มเป้าหมายของเราให้เจอก่อนด้วย
ทั้งนี้การทำการตลาดออนไลน์คุณ “ห้าม” คาดหวังว่าทำวันนี้แล้วพรุ่งนี้มันจะดีขึ้นทันตาเห็น เพราะมันต้องเริ่มจากการค่อยๆ สร้างค่อยๆ ทำขึ้นมา คีย์สำคััญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้ก็คือ “การทำการตลาด” นี่เอง
เพิ่มการรับรู้ให้กับแบรนด์
แต่เดิมในยุคสมัยก่อนเราไม่สามารถวัดได้เลยว่าเมื่อเราติดตั้งป้ายโฆษณาตามตึก ตามสถานที่ต่างๆ แล้วคนจะเข้ามาซื้อสินค้าหรือรู้จักเรามากขึ้นหรือไม่ แต่การเข้ามาของการตลาดออนไลน์จะมีเครื่องมือที่ช่วยเก็บข้อมูล รวมถึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ให้ได้ตรงใจกับลูกค้า และช่วยการเพิ่มการรับรู้ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
สามารถควบคุมงบได้ตามที่เราต้องการ
สำหรับงบประมาณในการทำการตลาดออนไลน์ หากเปรียบเทียบจริงๆ เราสามารถคุมค่าใช้จ่ายเองได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะอยู่กับการทำสื่อและการโฆษณาเป็นหลัก หากมีความเชี่ยวชาญในด้านการตลาดออนไลน์ก็จะสามารถประหยัดงบได้มากและมีประสิทธิภาพพอสมควร
เบื้องต้นเรื่องที่เราทำได้หลังจากที่เราทำโฆษณาออกไปแล้ว ในส่วนที่เราต้องจ่ายเงินเพิ่มก็ต้องมีการพิจารณาด้วยเช่น
– ผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนทำโฆษณา
– ความคุ้มค่าในการทำในการลงแรง
– ยอดขายที่ได้เทียบกับเงินลงทุนที่จ่ายไป
นี่คือปัจจัยคร่าวๆ เท่านั้น เพราะถ้าตรงส่วนไหนรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าเราก็สามารถปรับลดเองได้ภายหลัง แล้วค่อยๆ แก้กันไปทีละจุด เพราะตัวต้นทุนคุณปรับเองได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
แนะนำบทความที่น่าสนใจ
เหตุผลที่คุณควรทำการตลาดออนไลน์ตอนนี้

ทุกธุรกิจล้วนจะต้องมีการทำการตลาดเพื่อให้เป็นที่รู้จักในแบรนด์หรือตัวบริษัท เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายและลูกค้าของตนเอง โดยเป็นการทำโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ตามที่ได้วางแผนเอาไว้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย แต่ในยุคปัจจุบันการตลาดไม่ได้จำกัดแต่เพียงออฟไลน์เท่านั้น ในฝั่งออนไลน์ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน และไม่มีเหตุผลเลยที่คุณจะไม่ทำมัน
ในด้านของการตลาดออนไลน์เราสามารถใช้สื่อ Social Media ช่องทางต่างๆ เข้ามาช่วยทำการตลาดออนไลน์ได้ อาทิเช่น Facebook, Instagram, Twitter, LINE หรือแม้กระทั่งแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่เราคาดว่าจะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ ข้อดีของมันก็คือ สามารถเข้าถึงผู้คนได้ง่าย มีความประหยัดหากเทียบกับออฟไลน์ วัดผลได้ นำข้อมูลออกมาวิเคราะห์เพื่อต่อยอดในอนาคตก็ย่อมทำได้เช่นกัน
และสำหรับแบรนด์ใหญ่ๆ หรือบริษัทใหญ่ๆ ก็จะมีเครื่องมือช่วยทำการตลาดออนไลน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัววิเคราะห์ เครื่องมือเก็บพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า การรับชมของลูกค้า รวมถึงการส่งโฆษณาติดตามไปยังลูกค้าที่เคยดูสินค้าตัวเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายได้ และสร้างการจดจำให้กับลูกค้าในระยะยาว เพียงแค่เหตุผลเหล่านี้คุณก็ควรเริ่มจะลงมือทำการตลาดออนไลน์ได้แล้ว
แพลตฟอร์มที่สามารถทำการตลาดออนไลน์ได้
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มออนไลน์มากมายที่มีธุรกิจเข้าไปทำการตลาดออนไลน์อยู่บนนั้น แต่หลักๆ แล้วจะมีไม่กี่ตัวที่นิยมในไทย ก็จะมีคร่าวๆ ดังนี้
1. Facebook
อันดับหนึ่งของแพลตฟอร์มยอดนิยมทั่วโลกรวมถึงในไทยเอง ไม่ว่าใครก็เล่น Facebook ทั้งนั้น มีการใช้เพื่อสื่อสาร อ่านข่าว ดูเรื่องบันเทิง ติดตามดารา หรืออื่นๆ อีกมากมาย คุณจะเห็นได้ว่ามีหลากหลายธุรกิจตั้งแต่บริษัทใหญ่ไปจนถึงคนค้าขายธรรมดาเข้ามาโปรโมทธุรกิจของตัวเองบน Facebook อยู่ตลอด มีทั้งกลุ่มสำหรับขายของ เพจขายสินค้า เพจให้ข่าวสารเกี่ยวกับบริษัท
ซึ่งบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook เองนอกจากเราสามารถทำโพสต์แบบไม่เสียเงินได้แล้ว เราก็ยังทำโฆษณา Facebook เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นอีกด้วย แต่มันก็มีเทคนิคและวิธีการที่ซับซ้อนมากเลยทีเดียว แต่อันนี้คุณอาจจะต้องฝึกวางแผน ฝึกทำ ฝึกวิเคราะห์ให้ได้ มันจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจของคุณให้โตแบบก้าวกระโดดได้เลย
2. Instagram
เป็นอีกช่องทางที่มีเจ้าของเดียวกันอย่าง Meta โดยบน Instagram นั้นจะเน้นคอนเทนต์ประเภทรูปภาพเป็นหลัก แต่แบรนด์ส่วนใหญ่ก็สามารถทำการตลาดออนไลน์รวมถึงทำโฆษณาบน Instagram ได้ด้วยเช่นกัน ด้วยการที่เน้นเรื่องรูปภาพเป็นหลักทำให้คนที่แต่งภาพไม่เก่งหรือคนที่ถ่ายรูปไม่ค่อยเป็นอาจจะดูยากไปสักหน่อย ในช่องทางนี้อาจจะต้องใช้ภาพๆ เดียวและสื่อให้ครบ ทำให้คนที่เลื่อนฟีดสามารถหยุดกับรูปภาพเราที่สื่อออกไปได้ รวมถึงการรู้จักใช้ Hashtag อย่างถูกต้องก็ช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับโพสต์ของเราได้ไม่น้อย นอกจากนี้ตัว Story เองก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ควรจะหาอะไรมาลงไว้เพื่อสื่อสารกับผู้ที่เข้ามาดู Story ของเรา
3. Twitter
ทวิตเตอร์หลายคนที่เป็นธุรกิจเล็กๆ อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยและอาจจะไม่เคยใช้ทำการตลาดบ้าง แต่สำหรับแบรนด์ใหญ่ๆ แล้วพวกเค้าใช้งาน Twitter ในการสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยเช่นกัน โดย Twitter นั้นจะเด่นในเรื่องของ Trends ที่เป็นข่าวสารประจำวัน รวมถึงข่าวบันเทิงต่างๆ ซึ่งมีความรวดเร็วมาก บางเทรนด์อาจจะมาเพียงแค่วันเดียวแล้วก็หายไปเลยก็มี และส่วนมากธุรกิจใหญ่ๆ ก็มักจะใช้การจ่ายค่าโฆษณาในการทำการตลาดออนไลน์บน Twitter เป็นหลัก
แต่สำหรับรายเล็กๆ ไม่ต้องเสียใจไป เราก็สามารถเพิ่มการมองเห็นให้กับ Tweet ของเราได้เช่นกันโดยใช้ Hashtag ต่างๆ แต่อย่าพยายามเกาะกระแสมากเกินไปล่ะ เพราะด้วยพฤติกรรมที่เน้นติดตามข่าวเป็นหลักอาจจะดูไม่เหมาะสมมากนัก
4. LINE
LINE เป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสารเป็นหลักของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแชทคุยส่วนบุคคลหรือการทำงานก็มักจะใช้ LINE เป็นหลัก โดยมีผู้ใช้งานมากถึง 50 ล้านรายเลยทีเดียว ถือว่าเยอะอย่างมากหากเทียบสัดส่วนประชากรของไทย นอกจากจะใช้แชทส่วนตัวแล้ว ยังมี LINE Official Account ที่เป็นแอคเคาท์สำหรับธุรกิจอีกด้วย ตัวเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ก็จะถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานเชิงธุรกิจเป็นหลัก อาทิเช่น เครื่องมือส่งข้อความบรอดแคสต์ ข้อมูลลูกค้า การทำโฆษณา LINE MY SHOP และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่หลายคนไว้ใข้สำหรับเก็บข้อมูลลูกค้าได้เป็นอย่างดี
5. Website
ในด้านของเว็บไซต์หลายคนอาจจะมองว่ามันทำยาก ไม่มีความจำเป็นต้องทำ แต่สมัยนี้ทุกอย่างมันง่ายไปหมด มีเว็บไซต์ให้เลือกมากมายหลายแบบทั้ง Sale Page สำหรับขายของ นิยมอย่างมากกับคนขายของออนไลน์ เว็บขายสินค้าจริงๆ จังๆ มีการแบ่งหมวดหมู่สินค้า และเว็บไซต์สำหรับบริษัท และสมัยนี้คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมหรือ Coding ใดๆ ทั้งสิ้นก็สามารถสร้างเองได้ง่ายๆ
ในส่วนของการทำการตลาดออนไลน์บนเว็บไซต์ก็จะเน้นหลักการทำ SEO และ SEM ควบคู่กันไปขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละบริษัทหรือธุรกิจเพื่อให้เว็บไซต์ขึ้นไปอยู่ใน Google เป็นอันดับแรกๆ จากการค้นหา พอลูกค้าค้นหาเราเจอก็มีโอกาสเข้ามาที่เว็บไซต์ของเรา หากเราวางแผนการทำเว็บไซต์ได้ดี ก็จะมีลูกค้าไม่แพ้กับช่องทางอื่นๆ เลย
แจกฟรี E-Book12 Tip&Trick รู้จักประยุกต์ใช้ สร้างขั้นบันไดสู่ความสำเร็จ
ทำการตลาดออนไลน์อย่างไรได้บ้าง ?

1. ทำโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ
ไม่ว่าแพลตฟอร์มไหนๆ ก็สามารถทำโฆษณาได้ทั้งนั้น ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานค่อนข้างเยอะอย่างมาก ทำให้การโพสต์ปกติจะมีคนเข้าถึงค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะ Facebook ที่มีการลดการมองเห็นอย่างหนัก ทำให้หลายคนท้อและเริ่มหันมายิงโฆษณา Facebook กันเยอะพอสมควร แต่หากใครทำโฆษณา Facebook เป็นก็จะช่วยสร้างโอกาสให้กับธุรกิจได้อย่างมหาศาลเลย
2. ทำคอนเทนต์แบบ Organic
หากคุณไม่มีงบประมาณสำหรับการทำโฆษณา คุณเองก็ใช้เครื่องมืออย่างเช่นการโพสต์ฟีด โพสต์ข้อมูลเพื่อสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ได้เช่นกัน แต่วิธีนี้อาจจะต้องใช้ความอดทนและความสามารถสักนิด เพราะคุณต้องเจอกับปัญหากับการโดนลดการมองเห็นของบรรดาแพลตฟอร์มต่างๆ อีก และสิ่งที่จะช่วยได้นอกเหนือจากคอนเทนต์นั้นก็คือ “การเขียนพาดหัว” ให้ดูน่าสนใจ
3. ใช้ Influencer ช่วยโปรโมท
Influencer ในสมัยนี้หาไม่ได้ยากนัก มีให้เราเลือกตั้งแต่ Micro Influencer ไปจนถึงระดับ Celebrity เลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าเรามีงบเท่านี้จะจ้างใครที่ดูเหมาะสมกับแบรนด์ เหมาะสมกับงบประมาณเรามากที่สุด แต่มันก็มีความยากตรงที่ว่าเราจะหาคนที่เหมาะสมกับธุรกิจได้หรือไม่ ในการหาแต่ละครั้งอาจจะต้องหาข้อมูลมากหน่อยเพื่อให้ได้ตรงตามที่เราต้องการ
ต้องบอกว่า TikTok หลายร้านค้าบนแพลตฟอร์มต่างๆ ก็มีการจ้างให้ช่วยรีวิวสินค้าด้วยเช่นกัน รวมถึง Influencer บางคนยังได้ทำ Affiliate TikTok หากมีคนกดซื้อพวกเค้าก็จะได้ยอดขายด้วย เดียวแอดจะมาเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ทีหลังนะ
4. การทำ Search Engine
การทำ Search Engine จะเป็นวิธีทำการตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับฝั่งเว็บไซต์มากที่สุด เพราะส่วนใหญ่เวลาค้นหาข้อมูลอะไรบางอย่างก็มักจะเข้า Google และค้นหาสิ่งที่เราต้องการบนนั้น หน้าที่ของธุรกิจหรือร้านค้าก็คือการทำเว็บไซต์ให้เป็นไปตามกฎของ Google อย่างถูกต้อง รวมถึงเพิ่มในส่วนของการทำ SEO เข้าไปในคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา เมื่อลูกค้าค้นหาคำนั้นๆ ก็จะมีโอกาสเข้าเว็บไซต์ของเราได้ ซึ่งวิธีนี้ทาง Marketing In Secret ก็ใช้เช่นกัน และหลายๆ ธุรกิจที่ทำเว็บไซต์ก็ใช้วิธีนี้ทั้งสิ้น เนื่องจากว่ามันฟรี แต่เราต้องแลกกับเวลาเพราะการทำไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิดแน่ๆ
5. การใช้ E-mail ช่วยหาลูกค้า
บางคนอาจจะมองว่าทำการตลาดออนไลน์ผ่าน E-Mail เป็นเรื่องที่ล้าหลัง แต่ในปัจจุบันคนก็ยังคงใช้ E-Mail ในการติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับงาน รวมถึงใช้สมัครผูกกับแอพพลิเคชั่นรวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ อยู่ด้วยเช่นกัน แต่การทำการตลาดผ่านอีเมลก็มีความยากตรงที่เราจะทำอย่างไรให้คนกดอ่าน และทำอย่างไรให้ลูกค้าเกิดความสนใจต่อสินค้าหรือบริการของเราเมื่อได้กดอ่านแล้ว อันนี้อาจจะต้องใช้พวกหลัก Customer Journey เข้ามาช่วยในการทำการตลาดออนไลน์ มันจะทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมและพอจะอนุมานวิธีการได้
สรุป
การตลาดออนไลน์ในปัจจุบันเข้ามามีบทบาทกับทุกธุรกิจ ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์ ธุรกิจ กับลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถติดตามวัดผล ประเมิน วิเคราะห์ และปรับปรุงพัฒนาแบรนด์ได้ดีมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทแต่ก็ไม่ควรทิ้งช่องทาง Offline เลย เพราะอย่างน้อยมันก็ยังเป็นอีกตัวที่สามารถช่วยขับเคลื่อนและผสมผสานทำให้การตลาดมีความสมบูรณ์แบบได้มากยิ่งขึ้นอีก ส่วนใครที่ยังไม่ได้เริ่มทำการตลาดออนไลน์หรือยังไม่เคยทำ อยากให้ได้ลองทำดู มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และอาจจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีรวมถึงทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดได้อีกด้วย