แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

ในการขายของออนไลน์ก็ไม่ใช่เพียงแค่ว่าเราโพสต์ไปแค่อย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังต้องมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง รวมถึงการวางแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่เราได้วางเอาไว้ และมันจะช่วยให้เราได้เห็นภาพของธุรกิจของเราได้ง่ายมากขึ้นด้วย และสำหรับการขายของออนไลน์ก็ควรที่จะมีกลยุทธ์ทางด้านการตลาดไว้ด้วยเหมือนกัน และเราจะใช้กลยุทธ์อะไรดี หลักๆ แอดจะแนะนำในด้านของออนไลน์ให้มากกว่านะ

1. กลยุทธ์การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing)

โซเชียลมีเดียมีคนไทยเกือบจะทั้งประเทศที่มีการใช้งานโลกออนไลน์อยู่ หรือคิดเป็นกว่า 80% ที่มีบัญชีโซเชียลมีเดียของแพลตฟอร์มต่างๆ โดยเพื่อนๆ สามารถนำช่องทางที่เหมาะสมมาปรับการใข้งานให้สอดคล้องกับธุรกิจของเราได้ เช่น การใช้ Facebook เป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับลูกค้า โดยคุณอาจจะต้องเน้นไปที่การทำวิดีโอแบบสั้นเป็นหลัก หรือไม่ก็โพสต์ที่เป็นแนว Storytelling เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น

อีกวิธีก็คือการแชร์คอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย เพราะปัจจุบันคอนเทนต์ในด้านการขายแทบจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปแล้ว คนที่เห็นส่วนใหญ่ก็มักจะเลื่อนหนีทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นการขายของ

2. กลยุทธ์การตลาดผ่านผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ (Influencer Marketing)

ในการใช้ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์หรือที่เราจะคุ้นเคยในชื่อ Influencer นั้นปัจจุบันก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะบางท่านที่ขายของออนไลน์อาจจะมีงบประมาณอยู่ระดับหนึ่ง แต่ว่าไม่ค่อยเก่งเรื่องการทำโฆษณาหรือโปรโมทด้วยตัวเองก็สามารถจ้างเหล่า Influencer ที่เหมาะสมกับสินค้าของเราให้ช่วยในการโปรโมทได้ แถมช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกมากเลยหากทำออกมาได้ดีพอ

นอกจากนี้การใช้เหล่า Influencer ในปัจจุบันก็ไม่ได้มีราคาแพงเหมือนกับเมื่อสมัยก่อน หากคุณมีงบอยู่ในหลักพันก็สามารถเลือกได้แล้ว ทั้งนี้ต้องเลือกและใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสมด้วยนะ ถึงจะเห็นผลลัพธ์ได้

3. กลยุทธ์การทำการตลาดแบบแนะนำ (Affiliate Marketing)

ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหนๆ ที่มีฟีเจอร์สำหรับการขายของโดยเฉพาะ ก็มักจะมีเรื่องของ Affiliate Marketing เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน รวมถึงแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์อย่าง Shopee Lazada เองก็ด้วย ก็มีระบบนี้ด้วยเช่นกัน โดยจะเป็นการที่เรานำลิงค์ให้ผู้ที่มีโซเชียลมีเดียนำไปโพสต์ในช่องทางของตัวเอง และเมื่อเกิดการซื้อสินค้าผ่านลิงค์นั้น คนที่เอาลิงค์ไปก็จะได้รับเงินเป็นค่าคอมมิชชั่นตามที่เราได้กำหนด ถือว่าวิธีนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะกับใน TikTok Shop

4. กลยุทธ์การตลาดด้าน Search Engine (SEO Marketing)

ลูกค้าส่วนมากเวลาจะซื้อสินค้าอะไรก็ตาม มักจะมีการค้นหารายละเอียดหรือข้อมูลก่อนเสมอ ซึ่งสิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของเราหรือสินค้าของเราเข้าไปติดอันดับในการค้นหาและมีโอกาสที่ลูกค้าจะเห็นสินค้าของเราเป็นอันดับต้นๆ ก่อน วิธีนี้ถือว่าใช้เงินน้อยมาก แต่ก็ต้องแลกกับการใช้เวลาที่มากพอสมควร รวมถึงมีความยากอีกด้วย

5. กลยุทธ์การตลาดเกี่ยวกับวิดีโอ (Video Marketing)

ปัจจุบันเกือบทุกแพลตฟอร์มแทบจะให้ความสำคัญกับตัววิดีโอเกือบ 100% กันเลย รวมถึงการรับชมวิดีโอก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย โดยเฉพาะวิดีโอแบบสั้นที่มีความยาวไม่เกิน 60 วินาทียิ่งได้รับความนิยมสุดๆ หากคุณยังไม่เคยลองโพสต์คอนเทนต์ประเภทวิดีโอ แนะนำว่าให้ไปลองใช้งานดูเลยมันเวิร์คแบบสุดๆ

สรุป

ในอนาคตรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อนๆ สามารถเอาวิธีเหล่านี้ประยุกต์ใช้และดัดแปลงให้เข้ากับลูกค้าได้ แนะนำว่าถ้าเป้นไปได้ให้ทำครบทุกตัวจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รวมถึงติดตามผลลัพธ์การทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อนำไปปรับปรุงเช่นกัน


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping