แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

Walmart ร้านค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสัญชาติอเมริกา ถูกก่อตั้งโดย Sam Walton ในปี 1962 จนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 11,000 สาขาใน 27 ประเทศ เดียววันนี้แอดมินจะมาเล่าให้ฟังว่า Walmart เติบโตกลายมาเป็นบริษัทอันดับ 1 ของวงการค้าปลีกโลกได้อย่างไร ห้ามพลาดเด็ดขาด

รู้จักกับ Walmart บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Walmart เป็นร้านค้าปลีกที่มีความยืดหยุ่น และการปรับตัวต่อผู้บริโภคที่ค่อนข้างดีอย่างยิ่ง สังเกตได้จากแต่ละยุคที่พฤติกรรมของผู้บริโภคแตกต่างกันไป Walmart ก็จะทำการปรับตัวให้เข้ากับผู้บริโภคจนสามารถครองใจได้

หากมองย้อนตั้งแต่ปี 2017 – 2021 Walmart มีอัตราที่เติบโตอยู่อย่างต่อเนื่อง มีรายได้ถึงหลักล้านล้านบาทเลย !! แม้ในปี 2020 ที่มีสถานการณ์ของโรคโควิดระบาดลามไปทั่วทั้งโลกก็ตาม มาดูกันว่าเติบโตอย่าระดับเท่าไหร่บ้าง

รายได้บริษัท Walmart

รูปจาก Statista : แสดงรายได้ของ Walmart

ในปี 2017 รายได้อยู่ที่ 481.32 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ

ในปี 2018 รายได้อยู่ที่ 495.76 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ

ในปี 2019 รายได้อยู่ที่ 510.33 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ

ในปี 2020 รายได้อยู่ที่ 519.93 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ

ในปี 2021 รายได้อยู่ที่ 555.23 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ

จากรายได้จะเห็นชัดเลยว่าถึงแม้จะมีสถานการณ์โรคระบาดเกิดขึ้นจนทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกหดตัวลงก็ตามที แต่ Walmart ก็มีรายได้ที่ก้าวกระโดดอย่างมากในปี 2021 ถึงแม้จะเกิดวิกฤตแต่คนก็ยังต้องกินต้องใช้ ทำให้ Walmart เป็นหนึ่งในบริษัทที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากสถานการณ์ครั้งนี้

กลยุทธ์ของ Walmart ที่ทำให้แข็งแกร่งได้ถึงทุกวันนี้

ช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจเลย Walmart ให้ความสำคัญกับด้านราคาเป็นอย่างมาก โดยจะเน้นทำกลยุทธ์ราคาต่ำที่สุด แต่สินค้ามีคุณภาพดีที่สุด เพื่อดึงดูดใจลูกค้า

ถึงแม้กลยุทธ์ด้านราคาจะเป็นกลยุทธ์ที่เก่าแล้วก็ตาม แต่มันก็ได้ผลดีมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่ว่ายังไงเรื่องของราคาก็ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคทั้งสิ้น สำหรับ Walmart แล้ว พวกเขาถึงขั้นออกมาบอกเลยว่าเป็นหัวใจหลักๆ อีกตัวในการทำธุรกิจเลยทีเดียว

นอกจากกลยุทธ์ด้านราคาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ Sam Walton ผู้ก่อตั้ง Walmart ให้ความสำคัญไม่แพ้กันเลยคือเรื่อง “คน” โดยจะให้พนักงานของ Walmart สร้างบริการที่ยอดเยี่ยมและเป็นกันเองกับลูกค้า รวมถึงคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าอยู่เสมอ เมื่อมอบประสบการณ์ในการช็อปปิ้งที่ดีเยี่ยมก็จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำอีกครั้ง

จาก Offline สู่ Online

ในช่วงปี 2000 เป็นช่วงที่โลกออนไลน์เริ่มเข้ามาตอนแรกๆ และ Walmart ได้เตรียมตัวสำหรับการขายสินค้าบนโลกออนไลน์บ้างแล้ว และในปี 2007 ก็ได้เปิดให้บริการขายสินค้าออนไลน์ สามารถกดสั่งและเข้ามารับหน้าร้านค้าได้

พร้อมทั้งยังขยายกิจการในการเข้าซื้อธุรกิจของ Jet.com ShoeBuy.com ที่ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น Shoe.com นอกจากนี้ตลาดจีนที่บุกยากจนหลายๆ แบรนด์หลายธุรกิจยอมแพ้ แต่ Walmart ใช้วิธีเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ JD.com ในจีนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้าน E-Commerce

และยังมีระบบรับชำระเงิน Walmart Pay ที่ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกในการชำระเงินมากขึ้น เพียงแค่สมัครและผูกบัตร เมื่อต้องการชำระค่าสินค้าก็เพียงแค่กด OTP เท่านี้ก็จ่ายเงินได้แล้ว

คอร์สเรียนแต่งรูปง่ายๆด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ได้รูปมือโปร เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

ฟังสรุปการเรียนรู้จาก Walmart ผ่าน YouTube

สรุป

ถึงแม้ทุกวันนี้ ไม่ว่าด้านออฟไลน์และออนไลน์ Walmart จะมีความแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว แต่ก็พยายามขยายธุรกิจและหาโอกาสใหม่ๆ อยู่อย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

และกลยุทธ์ที่เห็นภาพได้ชัดมากที่สุดจาก Walmart คือ Omni Channel ที่ในประเทศไทยหลายๆ เจ้าก็มีการนำมาใช้กัน เป็นการควบรวมทั้งหน้าร้านและออนไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียวกันนั่นเอง

อ้างอิงจาก

www.corporate.walmart.com

www.forbes.com

www.statista.com


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping