แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย

การทำเว็บไซต์เรามักจะเข้าใจว่าจำเป็นจะต้องรู้เรื่องการเขียนโค้ด ระบบโปรแกรมต่างๆ และรู้สึกว่าการทำเว็บไซต์ขึ้นมาเองเป็นเรื่องที่ยาก และเฉพาะสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ IT เท่านั้นที่จะทำได้

ในปัจจุบันก็มีเว็บสำเร็จรูปที่เกิดขึ้นมาเพื่อให้คนที่เขียนโค้ดไม่เป็น ก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้ และราคาก็ไม่แพงหากเทียบกับการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาใหม่ด้วยการเขียนโค้ด แต่สำหรับเว็บไซต์สำเร็จรูปต่างๆ ก็มีการปรับแต่งได้ในระดับหนึ่ง ไม่ยืดหยุ่นเท่ากับการเขียนโค้ดเอง แต่ก็สะดวกสบายมากกว่าพอสมควร

ซึ่งเว็บสำเร็จรูปหนึ่งในนั้นก็จะมี “WordPress” นี่แหละที่เป็นเจ้าแห่งแพลตฟอร์มของเว็บไซต์แบบ CMS (Content Management System : CMS) โดยมีผู้ใช้งานมากที่สุดหากเทียบกับแพลตฟอร์ม CMS ด้วยกันอย่าง Joomla หรือ Wix งั้นเรามาทำความรู้จักกันดีกว่าว่า WordPress คือ ? กันแน่

มาทำความรู้จักกับ WordPress คืออะไร ? ทำเว็บไซต์ฟรีด้วยตัวเองแบบง่ายๆ (กดเลือกอ่านได้)

1. WordPress คืออะไร?

วิธีการทำเว็บ

WordPress คือ เว็บไซต์สำเร็จรูปชนิดหนึ่งที่เป็นแพลตฟอร์มแบบ CMS (Content Management System : CMS) ที่สามารถทำเป็นเว็บไซต์สำเร็จรูปแบบไม่ต้องเขียนโค้ด ไม่ต้องมีความรู้โค้ดก็สามารถใช้งานได้ เพียงแต่แรกๆ อาจจะต้องทำความเข้าใจกับมันบ้างเล็กน้อย เพื่อจะได้ปรับแต่งให้เหมาะสม

ตัว WordPress ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั่วโลก ด้วยความที่มันปรับแต่งง่ายและมีความยืดหยุ่นสูงทำให้มันได้รับความนิยม รวมถึงเหมาะกับทุกธุรกิจที่ตัว WordPress เองก็รองรับด้วยเช่นกัน

บนโลกของเราเว็บไซต์กว่า 30% ใช้ WordPress ในการทำแทบทั้งสิ้น เห็นได้ชัดเลยว่ามันนิยมขนาดไหน แม้แต่คนที่ไม่เคยทำเว็บไซต์ก็สามารถสร้างเว็บสวยๆ ได้เองอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Community ที่คอยแลกเปลี่ยนเรื่อง WordPress เพื่อปรึกษาวิธีการทำหรือการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อีกด้วย

2. WordPress.org กับ WordPress.com ต่างกันอย่างไร

เปรียบเทียบ wordpress

WordPress สามารถแบ่งออกได้เป็นอีก 2 ตัวหลักๆ หากได้ลองเข้า แล้วจะพบได้ว่ามีเว็บไซต์ทั้งหมด 2 URL ซึ่งมีความแตกต่างคือ .Org และ .Com หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแบบไหนดีกว่ากัน เพราะเป็นเจ้าเดียวกันทั้งคู่แต่แยก URL ออกมาเฉยๆ มาดูกันดีกว่าว่าเราควรใช้อันไหนดี

จุดเด่น WP

ในการเลือกใช้งาน หากมองถึงอนาคตหรือหลายๆ เว็บไซต์ ก็จะเน้นใช้ WordPress.org มากกว่าเป็นส่วนใหญ่ เพราะจากข้อจำกัดต่างๆ ของตัวเว็บ WordPress.com ที่ไม่สามารถทำระบบ E-Commerce ได้หากไม่ได้ซื้อแพ็คเกจที่กำหนด รวมถึงยังมีในเรื่องของปลั๊กอินที่มีข้อจำกัดในการเหมือนกัน

บทความแนะนำ 10 Plugin WordPress ยอดนิยมที่คุณไม่ควรพลาด ควรมีติดไว้ในเว็บไซต์

หากต้องการใช้ WordPress.org ก็สามารถหาผู้ให้บริการได้ไม่ยาก โดยสำหรับ 3 เจ้าผู้ที่ WordPress แนะนำก็จะมี Bluehost, DreamHost, Siteground

หรือถ้าในบ้านเราเองก็มีให้เลือกหลายเจ้า อาทิเช่น Rukcom, Bangmod, Hostatom, Hostneverdie และเจ้าอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งที่ต้องดูหลักๆ ในการเลือกโฮสติ้งทำเว็บไซต์เลยก็คือมีฟรี SSL (การเข้ารหัสความปลอดภัยของเว็บไซต์) มีหน้า cPanel ในการจัดการพวกออกซับโดเมน เพิ่มโดเมน การปรับแต่ง WordPress เพิ่มเติม เป็นต้น

Hosting เจ้าไหนดี

3. ประโยชน์ของ WordPress

wordpress ดียังไง

สำหรับการทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ก็มีประโยชน์ค่อนข้างมหาศาลเลยทีเดียว หากเปรียบเทียบกับเว็บไซต์สำเร็จรูปอื่นๆ เพราะมีความยืดหยุ่นค่อนข้างมาก มีราคาไม่แพงมากนักหากนับรวมทั้ง Theme เสียเงิน ปลั๊กอินเสียเงินที่จำเป็น และค่า Hosting นอกสามารถทำเว็บไซต์ได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น

– เว็บขายสินค้า E – Commerce

– เว็บไซต์บริษัท

– เว็บบล็อกหรือเว็บข่าวทั่วไป

– เว็บส่วนตัว

และเว็บในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งด้วยการปรับแต่งที่อิสระทำให้หลายคนเลือก WordPress เป็นตัวเลือกต้นๆ ในการสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง และสะดวกตรงที่ไม่ต้องเขียนโค้ดก็สามารถทำเว็บไซต์ได้เองแบบง่ายๆ

สำหรับสาย SEO จะถูกใจ WordPress เป็นพิเศษ เพราะจะมี Plugin ที่รองรับการทำ SEO ให้หลากหลายตัว แต่ทึ่คุ้นหูและใช้กันเยอะที่สุดก็จะมี Yoast SEO และ Rank Math

ส่วนใครที่จะติดตั้งหรือซื้อบริการเพื่อใช้งานไม่เป็น ก็สามารถเลือกหา Hosting ดีๆ ในไทยเพื่อช่วยเหลือดำเนินการได้เหมือนกัน ซึ่งก็มีหลากหลายเจ้าที่ให้บริการ Hosting ด้าน WordPress โดยเฉพาะ

การเลือก Hosting ให้เลือกเจ้าที่มีแพ็คเกจโฮสต์สำหรับ WordPress โดยเฉพาะจะดีที่สุด เพราะจะแยกการใช้งานระหว่าง Share Host รวมถึงยังมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะเวลาเราต้องการความช่วยเหลือด้วย

4. วิธีการเลือก Theme WordPress เบื้องต้น

wordpress ใช้ธีมไหนดี

สำหรับการเลือก Theme บน WordPress แน่นอนว่าคงเป็นปัญหาสำหรับมือใหม่หลายๆ คนอย่างแน่นอน เพราะว่าแต่ละคนก็คงมีความต้องการที่ไม่เหมือนกันแล้วแต่วัตถุประสงค์ของแต่ละเว็บว่าสร้างมาแล้วต้องการให้เป็นเว็บไซต์ประเภทไหน นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของ Plugin WordPress ที่เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญต่อการสร้างเว็บไซต์อีกด้วย

อ่านบทความแนะนำเพิ่มเติม

รีวิว Theme WordPress Divi ที่เว็บไซต์ Marketing In Secret ใช้

เลือกธีมอย่างไร ? ให้เหมาะกับเว็บ พร้อมแนะนำการเลือกซื้อ Theme WordPress

พอทีนี้เมื่อมีเป้าหมายแล้วว่าจะสร้างเว็บไหน ก็จะต่อด้วยการหา Theme สวยๆ ต่างๆ ให้เหมาะกับที่เราตั้งใจออกแบบไว้ในหัว แต่ !!! ตรงนี้แหละที่พลาด เพราะการที่เราเจอ Theme ที่ถูกใจแล้วสวยจริงๆ แต่เราต้องดูด้วยว่า “คนใช้งานเยอะขนาดไหน” ถ้าใช้งานมาก ก็จะมีสิทธิ์ที่เจ้าของ Theme อัพเดทกันไปยาวๆ เพราะเขายังสามารถหากินกับ Theme ตัวนี้ได้อยู่

แต่เมื่อไหร่ที่ Theme ตัวนั้นคนใช้น้อย และผู้พัฒนามองว่าไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือการทำงานของเขา เขาก็จะทิ้งกันไปดื้อๆ พอทีนี้ภาระปัญหาก็จะตกมาอยู่ที่ผู้ใช้ทันที

ภาพด้านล่างคือ Theme ที่ไม่ได้อัพเดทมานาน อาจจะมีปัญหากับ WordPress เวอร์ชั่นใหม่ๆ และเสี่ยงต่อการโดนแฮคได้อีกด้วย

เลือกธีมไหนดี

ส่วนหากเราใช้ Theme ยอดนิยมจริงๆ นอกจากจะมีการอัพเดทบ่อยครั้งแล้ว เมื่อเราเกิดปัญหา Error ต่างๆ เราก็สามารถหาข้อมูลใน Google หรือ YouTube ได้ง่ายเพราะว่าใครๆ ก็ใช้งาน และหากต้องการเรียนรู้ก็มีคนสอนมากมาย แทบไม่ต้องไปงมหาเองอีกด้วย

ถ้าในกลุ่มคนไทยที่นิยมใช้ก็จะเป็น Flatsome เนื่องจากว่าตัวธีมสามารถปรับแต่งได้เยอะ ใช้งานได้ง่าย ตัวธีมมีน้ำหนักค่อนข้างเบาทำให้โหลดไว นอกจากนี้มีการอัพเดทบ่อยและสามารถหาวิธีแก้ไขได้ง่ายเมื่อเกิดปัญหา จึงเป็นอีกหนึ่งธีมที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในหมู่คนไทย

ซื้อธีม WordPress

การจะทำหน้าตาเว็บให้สวยงาม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือก Theme สวยๆ แต่เป็นการออกแบบเว็บไซต์ของตัวเองมากกว่าว่าจะสวยหรือไม่สวย ส่วนเว็บ Marketing In Secret สร้างด้วย Theme Divi

5. คำศัพท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ WordPress

เรื่องน่ารู้กับ WP

คำศัพท์เบื้องต้นที่ก่อนทำ WordPress ที่ควรรู้ก่อนจะเริ่มทำ เพื่อที่จะได้เข้าใจความหมาย และเข้าใจในการทำได้มากยิ่งขึ้น

1. Dashboard

หน้าแรกที่แสดงข่าวสารหรืออัพเดทต่างๆ เกี่ยวกับเว็บไซต์และตัว WordPress เอง รวมถึง Tip&Trick สำหรับคนที่ใช้งาน WordPress โดยจะมีการแจ้งเตือนอยู่เป็นระยะให้เราทราบในหน้า Dashboard นี้

สอนทำ WordPress

2. Posts

หน้านี้จะเป็นหน้าสำหรับเขียนบทความต่างๆ หรือกิจกรรมที่เราต้องการแจ้งให้กับผู้เข้าใช้งานให้ได้อ่านกัน ยกตัวอย่างเช่นของเว็บ Marketing In Secret ในโพสต์ก็จะเป็นพวกบทความเกี่ยวกับยิงแอด Facebook บทความสอนทำ IG หรือความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการตลาด

หน้าโพสต์บนเว็บ

3. Page

Page คือ หน้าที่เป็นแหล่งรวมเนื้อหาต่างๆ ข้อมูลไว้ในหน้าเพจ โดยในหน้าเพจนั้นก็สามารถใส่บทความของ Posts ได้เหมือนกัน จากภาพด้านล่างเป็นหน้าเพจ Marketing In Secret เป็นหน้าของ Facebook Ads

หน้าเพจเว็บไซต์

ง่ายสุด Page คือ หน้าที่คงอยู่ถาวร เนื้อหาเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เช่น หน้าแรก เกี่ยวกับเรา ติดต่อเรา เป็นต้น

ส่วนหน้า Posts คือ หน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่แต่ละหน้าไม่เหมือนกัน เป็นการทำบทความความรู้ต่างๆ หรือกิจกรรมต่างๆ ลงในหน้าโพสต์

4. Theme

Theme หรือ ธีมนี่แหละคือตัวที่เป็นโครงสร้าง Layout ในการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง การออกแบบดีไซน์ของเว็บไซต์ให้สวยงามที่มาพร้อมกับเครื่องมือสำเร็จรูปต่างๆ เพียงแค่เราลากวางก็สามารถแสดงผลได้แล้ว และ Theme บน WordPress ก็มีให้เลือกหลากหลายมาก มีทุกประเภทสำหรับดีไซน์หน้าตาเว็บที่เราอยากทำ

เลือกธีมเวิร์ดเพลส

การเลือก Theme ให้เลือกที่คนซื้อเยอะและเป็นที่นิยม เพราะหากเกิดปัญหาเราสามารถหาวิธีแก้ไขได้ รวมถึงหาวิธีสอนทำได้ง่าย นอกจากนี้ก็หาที่เหมาะกับดีไซน์เว็บที่เราวางไว้ด้วย ย้ำ !! การทำเว็บให้สวยไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Theme เป็นหลัก แต่ขึ้นอยู่กับการออกแบบตกแต่งของผู้ทำมากกว่า

คอร์สเรียนแต่งรูปง่ายๆด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ได้รูปมือโปร เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

5. Plugin

ปลั๊กอิน ติดตั้งปลั๊กอิน WordPress หลายคนคงเคยได้ยินคำเหล่านี้มาบ้าง ตัวปลั๊กอินเป็นส่วนขยายของเว็บไซต์ คล้ายกับ Google Chrome Extension นั่นแหละ สมมติธีมเว็บของเราไม่สามารถทำระบบรับชำระเงินได้ เราก็โหลดปลั๊กอินสำหรับการชำระเงินมาติดตั้งบนเว็บ เท่านี้เว็บเราก็สามารถรับชำระเงินผ่านเว็บได้แล้ว

6. SEO

SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นการทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับการค้นหาใน Google โดยที่เราไม่ต้องยิงแอดโฆษณาหรือเสียเงินในการทำโฆษณา แต่ว่าการทำ SEO จะต้องใช้เวลาในการทำบทความ ทำคีย์เวิร์ด เพราะเว็บไซต์ส่วนใหญ่ก็จะทำ SEO กันเป็นปกติอยู่แล้วจึงต้องแข่งขันกันว่าบทความของใครมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน

บน WordPress ก็จะมีปลั๊กอินสำหรับการทำ SEO โดยเฉพาะให้โหลดใช้ฟรีๆ ด้วย

ปลั๊กอินทำ SEO

7. Mobile Friendly

ในยุคที่คนเข้าเว็บไซต์ด้วย Smart Phone เป็นหลัก ในการแสดงผลจึงจำเป็นจะต้องเน้นหนักไปที่การออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ดีที่สุดบนโทรศัพท์มือถือ ไม่มีขนาดใหญ่เกินไปหรือไม่เล็กจนเกินไป รวมถึงจะต้องสามารถใช้งานได้ง่ายบนโทรศัพท์

สรุป

การทำเว็บไซต์ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเว็บไซต์อีกต่อไป เพราะเป็นเว็บไซต์ที่มี Theme และ Template สำเร็จรูปให้ เพียงแค่เราลากวางก็สามารถใช้งานได้เลย มีความยืดหยุ่นมาก สามารถดัดแปลงให้เป็นได้ทั้งเว็บบริษัทและเว็บแบบ E – Commerce หากใครกำลังมองหาเว็บไซต์สำเร็จรูป WordPress ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน


แชร์แบ่งปันกับเพื่อนๆ ได้เลย
Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping